เดือนพฤษภาคม ทองคำอาจเข้าสู่โหมดการปรับฐาน

ทองคำ
สถานีลงทุน
ธนรัชต์ พสวงศ์ 
ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

เดือนเมษายนราคาทองคำปรับขึ้นโดดเด่น และเป็นเดือนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดปีใหม่ โดยทองคำ spot เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายเดือน และทองแท่งเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายเดือน

โดยที่ราคาทองคำ spot ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ราคาทองคำได้รับปัจจัยสนับสนุนทั้งปัจจัยด้านพื้นฐานและปัจจัยด้านเทคนิค

ปัจจัยด้านพื้นฐาน ได้แก่ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหรือ bond yield สหรัฐเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0-0.25% และมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

รวมทั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่าขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เฟดจะปรับลดวงเงินมาตรการ QE สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกรอบใหม่รุนแรงที่คาดว่าจะเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ หลายประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนปัจจัยลบหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหรือ bond yield สหรัฐเริ่มชะลอตัวลง แรงเทขายทองคำจากอีทีเอฟทองคำลดลง

ขณะที่ปัจจัยด้านเทคนิคราคาทองคำเกิดสัญญาณ double bottom หลังจากที่ราคาทองคำลดลงทำจุดต่ำสุด 2 รอบที่บริเวณ 1,676 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนเดือนมีนาคมและปลายเดือนมีนาคม แต่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,676 ดอลลาร์ได้

สัญญาณ double bottom หมายความว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าราคาทองคำจะกลับทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น และในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถผ่านเส้น neckline ที่บริเวณ 1,750 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ได้ในที่สุด

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำเดือนพฤษภาคมไม่เข้มข้นเหมือนในเดือนเมษายน ทำให้ดูเหมือนว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวไม่โดดเด่นหรือผันผวนเท่าเดือนเมษายน

ขณะที่เดือนเมษายนมีประเด็นสำคัญทั้งการแถลงของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อสภาคองเกรส หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี 100 วัน และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงต่อสภาคองเกรสว่าจะมีนโยบายใช้จ่ายด้านครอบครัวและการศึกษาวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเงินที่ใช้จ่ายมาจากแผนการปรับขึ้นภาษีคนรวยในสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยจะขึ้นภาษีเงินได้บุคคลในอัตราสูงสุดที่ 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี จัดเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนในหุ้นสำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป

ส่วนปัจจัยอื่นที่กระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การกระจายวัคซีนโควิด-19 การจ้างงานของสหรัฐเดือนเมษายน และความต้องการทองคำภาคเครื่องประดับและทองแท่งที่ฟื้นตัวดีในไตรมาส 1 และมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนต่อความต้องการทองคำในปีนี้

โดยความต้องการทองคำในส่วนเครื่องประดับไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ความต้องการทองแท่งไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจัยด้านเทคนิคต้องระวังว่าทองคำอาจเกิดสัญญาณทางด้านเทคนิค double top ได้ หลังจากที่ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ 2 ครั้ง และยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ดังนั้นต้องระวังการปรับฐานของราคาทองคำ

โดยทองคำมีแนวรับสำคัญ 1,750 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ ราคาทองคำสดใสและมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์