ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มอ่อนกำลังอิงทางลงเป็นหลักระหว่าง 1,575-1,595 จุด ทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด ยังไม่ได้ ขานรับบรรยากาศลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอ่อนตัว หวั่นหากเกิดการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์อินเดียนอกสถานที่กักกันของรัฐ คาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญกับแรงขายชุดใหญ่อีกระลอก วันนี้คลังชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ครม.วงเงิน 4 แสนล้านบาท เบื้องต้นตลาดรับรู้ประเด็นนี้ไประดับหนึ่งแล้ว
วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET เริ่มอ่อนกำลัง คาดเช้านี้เคลื่อนไหวอิงทางลงเป็นหลักระหว่าง 1,575-1,595 จุด หลังการทดสอบแนวต้านใกล้บริเวณ 1,600 จุด วานนี้พบว่ายังไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายดายนัก ประกอบกับวันนี้บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเริ่มอ่อนกำลังลง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ขณะที่ในประเทศแม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ยังต้องจับตาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียที่เข้ามาในประเทศไทยวานนี้ จึงคาดจะเห็นความผันผวนอิงทางลงไปก่อนในระยะสั้น
โดยวานนี้ ศบค. รายงายพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียรายแรกในไทย ปัจจุบันอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ โดยผู้ติดเชื้อได้เดินทางกลับมาจากปากีสถาน ซึ่งเป็นแหล่งแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์อินเดีย เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ติดตามใกล้ชิด เพราะหากพบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์อินเดียนอกสถานที่กักกันของรัฐ คาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญกับแรงขายชุดใหญ่อีกระลอก
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยว่าปัจจุบันได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ระงับการออก COE (Certificate of Entry) สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางหรืออาศัยในปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล ตั้งแต่ 10 พ.ค.นี้ เพิ่มเติมจาก อินเดีย ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
ด้าน WHO ได้เปิดเผยผลการศึกษาเบื้องต้นของโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียว่าเป็นความเสี่ยงต่อด้านสุขภาพระดับโลกที่มีการกลายพันธุ์สามจุด (Triple Mutant) พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วกว่า original virus และยังพบว่าสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนได้ แต่ WHO ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนยังถือว่ามีประสิทธิภาพอยู่
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นทรงตัวได้ แต่ระยะยาวยังต้องติดตาม จากที่บริษัทสหรัฐ Colonial Pipeline ถูก cyber attack ส่งผลให้บริษัทต้องปิดทำการท่อส่งน้ำมันระยะทางกว่า 5,500 ไมล์ ล่าสุดบริษัท Colonial Pipeline เผยว่าท่อส่งน้ำมันดังกล่าวจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติภายในสุดสัปดาห์นี้
ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบหายไปจากกรณีนี้จะเริ่มคลี่คลายลงในที่สุด ขณะที่ยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในระยะถัดไป เนื่องจากล่าสุดเริ่มมีแหล่งข่าวต่างประเทศรายงานถึงความคืบหน้า การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และทำให้อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดได้อีกครั้ง ดังนั้น อุปทานน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในระยะยาวจะถูกกดดันอีกทาง
วันนี้คลังชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ครม. วงเงิน 4 แสนล้านบาท เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยคาดคงผ่านไปได้ด้วยดี และคงไม่มีมาตรการใหม่ ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากได้เปิดเผยไปแล้ว ซึ่งมองว่าตลาดรับรู้ประเด็นนี้ไปในระดับหนึ่งแล้ว