“วัคซีน” ตัวแปรชี้วัดจีดีพีปี 64 เติบโตหรือดิ่งเหว ธปท.ลั่นฉีดเร็วสำคัญกว่ายี่ห้อ

ฉีดวัคซีน 2

ธปท.ประเมินโควิด-19 ระลอก 3 กระทบจีดีพีไม่เท่าระลอกแรก เหตุกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนิน-ระบบสาธารณสุขรองรับได้ มองการจัดหาวัคซีน-กระจายวัคซีน-ภูมิคุ้มกันหมู่ตัววัดจีดีพีไทยปี 64-65 หลังทำสมมติฐาน 3 กรณี คาดฉีดเร็วหนุนจีดีพีโต 3.0-5.7%

วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงเรื่อง “ส่องเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด ด้วยวัคซีน” ว่าการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในรอบการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในรอบเดือนมีนาคมยังไม่รวมปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3

แต่มองว่าผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไม่รุนแรงเท่าระลอกแรก เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนยังสามารถดำเนินได้ ขณะเดียวกัน แม้ว่าสถานการณ์ระบาดล่าสุดยังมีความไม่แน่นอน แต่ระบบสาธารณสุขยังรองรับได้

ชญาวดี ชัยอนันต์
ชญาวดี ชัยอนันต์

อย่างไรก็ดี การระบาดที่รุนแรงและยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและความเชื่อมั่น โดยจากข้อมูลเร็วกิจกรรมปรับลดลงเร็ว และความเชื่อมั่นภาคบริการกระทบเยอะ โดยจากการสำรวจพบว่าอัตราการเข้าพักในเดือน เม.ย. ไม่ถึง 20% และในเดือน พ.ค. จะต่ำกว่า 10% และการระบาดระลอก 3 กระทบต่อการใช้จ่ายในประเทศอยู่ที่ 1.4-1.7% ต่อจีดีพี ซึ่งสูงกว่าการระบาดระลอก 2 ที่อยู่ 1.2% ของจีดีพี ดังนั้น ผลกระทบจะขึ้นกับความยืดเยื้อ แต่เชื่อว่าผลต่อเศรษฐกิจจะไม่รุนแรงเท่าระลอกแรก

ทั้งนี้ ปัจจัยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยไทยออกจากวิกฤตด้านสาธารณสุขและการเปิดประเทศ โดยหากฉีดวัคซีนได้เร็วจะช่วยหนุนการเติบโตจีดีพีในปี 2564-2565 ขยายตัว 3.0-5.7%

ซึ่ง ธปท.ได้ทำสมมติฐานไว้ 3 กรณี ซึ่งกรณีที่ 1 สามารถจัดหาและกระจายวัคซีนได้ 100 ล้านโดสในปี 2564 และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 จะช่วยเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัว 2% นักท่องเที่ยว 1.2 ล้านคน และปีหน้าจีดีพี 4.7% นักท่องเที่ยว 15 ล้านคน

กรณี 2 คือ จัดหาและกระจายวัคซีนได้ 64.6 ล้านโดสในปี 2564 และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 จะช่วยให้จีดีพีปีนี้ขยายตัว 1.5% จำนวนนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน และจีดีพีปีหน้าอยู่ที่ 2.8% นักท่องเที่ยวอยู่ที่ 12 ล้านคน โดยกรณีมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลังภูมิคุ้มกันหมูล่าช้าไม่ทันไตรมาส 1 ปี 2565 สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจอยู่ที่ 4.6 แสนล้านบาท หรือ -3.0% ของจีดีพี

และกรณีที่ 3 จัดหาหรือกระจายวัคซีนน้อยกว่า 64.6 ล้านโดสในปี 2564 และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 จะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 8.9 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น -5.7% ของจีดีพี โดยมองว่าการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้จะอยู่ที่ 1% จำนวนนักท่องเที่ยวเหลือ 8 แสนคน และปีหน้าขยายตัว 1.1% นักท่องเที่ยว 8 ล้านคน

“เราได้ประเมินผลกระทบการระบาดของโควิดที่มีต่อเศรษฐกิจตลอดเวลา แต่การประเมินรอบนี้ยังไม่ใช่จีดีพีจริง แต่ทำภายใต้สมมติฐานต่าง ๆ โดยหากเราต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จะอยู่ที่ความเร็วของวัคซีนไม่ใช่ยี่ห้อของวัคซีน”