SAWAD กำไรไตรมาสแรก พุ่ง 1.4 พันล้านบาท คาดปี’64 โต 20%

ดวงใจ แก้วบุตตา
ดวงใจ แก้วบุตตา

SAWAD โชว์กำไรสุทธิ ไตรมาส 1 ของปีนี้ พุ่ง 29.22% กว่า 1.4 พันล้านบาท พอร์ตลูกหนี้แตะ 3.4 หมื่นล้านบาท คาดกำไรทั้งปีโต 20% เดินหน้าขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศเป็น 6 พันสาขา

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรรวมสุทธิ 1,422.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 321.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.22% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 1,100.62 ล้านบาท

“บริษัทมีรายได้รวม 2,806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,786 ล้านบาท โดยมีรายได้อื่น 905.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.40% เทียบกับรายได้อื่นงวดเดียวกันของปีก่อน 699.67 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนประเภทของเงินลงทุนในบริษัทย่อย (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) เป็นบริษัทร่วม”

ทั้งนี้ สิ้นสุดไตรมาส 1/64 บริษัทปรับเปลี่ยนประเภทของเงินลงทุนในบริษัทย่อย (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) เป็นบริษัทร่วม มีผลทำให้จำนวนพอร์ตลูกหนี้ลดลงจาก 42,266 ล้านบาท เหลือ 34,755 ล้านบาท บาท เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำลูกหนี้ที่อยู่ในบริษัทร่วม (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) มารวมแสดงอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัท

นางสาวดวงใจ กล่าวต่อว่า ผลงานไตรมาสแรกเกินเป้าหมาย SAWAD สามารถทำกำไรสุทธิโตกว่า 29% แม้จะมีการลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทก็มีรายได้อื่น ๆ และค่าบริการที่เพิ่มขึ้นมาชดเชยได้ นอกจากนี้กลุ่มศรีสวัสดิ์ยังมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 916.37 ล้านบาท ลดลงกว่า 78.66 ล้านบาท หรือลดลง 7.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 995.03 ล้านบาท

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของบริษัทสิ้นสุดไตรมาสแรกปี 2564 อยู่ที่ระดับ 4.22% ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเอ็นพีแอลอยู่ที่ระดับ 4.99%

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทคาดว่ารายได้และพอร์ตลูกหนี้จะเติบโต 20% รวมทั้งประมาณการว่ากำไรจะเติบโตอย่างน้อย 20% โดยปีนี้กลุ่มศรีสวัสดิ์มีความพร้อมสูงในการแข่งขันทุกรูปแบบ เพราะช่วงที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ 6,000 สาขา เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าขายประกัน (โบรกเกอร์) ก็มีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่สูง