นักลงทุนต่างชาติยังเทขายทำกำไรมีต่อเนื่อง โบรกประเมิน 2 เดือนสุดท้ายปีนี้จะขายสุทธิราว 3.2 หมื่นล้านบาท เริ่มปรับฐานลงทุนตลาดญี่ปุ่น – จีน หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน คาดกรอบดัชนีหุ้นไทยพรุ่งนี้เคลื่อนไหว 1,680 – 1,720 จุด แนะนำ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว”
นายสรพล วีระเมธีกุล ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ย.2560) ดัชนียังปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน เนื่องจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติยังมีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดอยู่ที่ 1,712.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด หรือ 0.06% มูลค่าซื้อขาย 56,758.15 ล้านบาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ขณะที่แนวโน้มของดัชนีหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.2560) พร้อมประเมินตลอด 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ยังคาดว่าจะมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติม โดยข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี เฉลี่ยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีจะมียอดขายสุทธิของต่างชาติประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท ประกอบกับเม็ดเงินไหลเข้าจากกองทุน LTF ก็คาดว่าจะมีอยู่ที่ราว 2.2 หมื่นล้านบาท แม้จะเข้ามาช่วยพยุงตลาดได้ แต่ไม่สูงนัก จึงทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นแต่ไม่หวือหวา โดยคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,680 – 1,720 จุด
“เศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว จะเห็นได้ว่าต่างชาติมีแรงเทขายหุ้นไทยไปเพื่อลงทุนในตลาดเอเชียเหนือ เช่น ญี่ปุ่น จีน ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจนแล้ว และยังมีเม็ดเงินไหลกลับไปลงทุนให้สหรัฐด้วย”
สำหรับกลยุทธ์นักวิเคราะห์แนะนำนักลงทุน “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” ให้ดัชนีย่อลงมาอยู่ที่แนวรับ 1,680 จุด โดยหุ้นที่แนะนำ คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพยท์ อาทิ LPN – SPALI
