คลังเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกฎหมายบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหว แบงก์ไทย-เทศร่วมให้ความเห็น

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. Dormant Account) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสภาสถาบันการเงินของรัฐ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 120 คน ณ สศค. ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหลักการและเหตุผล รวมถึงเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. Dormant Account รายมาตรา โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

ร่าง พ.ร.บ.Dormant Account จะเป็นประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกเจ้าของบัญชีในการสืบค้นบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปี จากระบบตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวแบบรวมศูนย์ที่กรมบัญชีกลาง โดยเจ้าของบัญชีหรือทายาทสามารถติดต่อของรับเงินคืนได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ที่ประชุมเห็นควรให้มีความชัดเจนในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเภทของบัญชีเงินฝาก นิยามของบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ระยะเวลาและกระบวนการดำเนินการในทางปฏิบัติ เป็นต้น และเห็นควรให้มีการพิจารณาวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับให้เหมาะสม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีระยะเวลาในการเตรียมการ อีกทั้งควรพิจารณาถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย

ทั้งนี้ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.Dormant Account จะเป็นไปอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ และจะนำความเห็นจากทุกฝ่ายมาประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. Dormant Account ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายต่อไป โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ผ่านทาง Fax: 0 2618 3366 Email: [email protected]

นอกจากนี้ สศค.จะดำเนินการประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.Dormant Account อย่างต่อเนื่องผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ และอยู่ระหว่างการรวบรวมและจัดทำประเด็นคำถามคำตอบเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะดำเนินการนำขึ้นเว็บไซต์ของ สศค. ในโอกาสต่อไป