ภาวะฝืดเคือง…ผ่อนรถไม่ไหว ประคองหนี้อย่างไรดี?

รถยนต์ ถนน

ลีสซิ่งกสิกรไทย แนะวิธีผ่อนรถไม่ไหว เร่งติดต่อเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือ เผยธปท.เตรียมมีมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อ-ทางเลือกคืนรถในภาวะฝืดเคือง หนุนคนไทยซื้อรถควรมีเงินดาวน์ 20-25%

วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ให้ข้อมูลว่า การกู้ซื้อรถอาจไม่ยาก แต่ต้องมีวินัยในการชำระหนี้สูง โดยเฉพาะในยุคโควิด 19 ที่อาจทำร้ายกระเป๋าเงินของเราอย่างหนักจากรายได้ที่ถดถอย ซึ่งถ้าประสบปัญหารายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ขอให้เร่งติดต่อเจ้าหนี้ผู้ให้เช่าซื้อโดยเร็วที่สุดเพื่อขอรับความช่วยเหลือเฉพาะหน้าและรักษาประวัติทางการเงินที่ดี

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ลูกหนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะขอรับความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ตามแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของธปท. คือ การเข้ามาตรการฯ ไม่ได้ช่วยให้ยอดหนี้รวมของเราลดลง แต่จะช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหนี้ได้บางส่วนในระยะนี้

นอกจากนี้เงื่อนไขสำคัญของการขอเข้าโครงการผ่อนผันการชำระหนี้เช่าซื้อรถ คือ จะต้องยังไม่เป็นลูกหนี้ NPL โดยแนวทางให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เช่าซื้อรถ ซึ่งเปิดให้ยื่นได้ถึง 30 มิ.ย. 2564 นี้ มี 2 ทางเลือกด้วยกัน คือ (1) พักค่างวด 3 เดือน และ (2) ลดค่างวด-ขยายเวลา เพื่อช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนมีความเหมาะสมกับกำลังความสามารถในการผ่อนหนี้ของลูกหนี้มากขึ้น

ดังนั้น ถ้าเรามีหนี้เช่าซื้อรถและยังต้องการเป็นเจ้าของรถอยู่ จำเป็นที่ต้องตระหนักถึงความสำคัญของการประคองสถานะหนี้ไม่ให้ตกชั้นเป็น NPL แม้ในสถานการณ์วิกฤติโควิด 19 โดยเร่งเจรจากับเจ้าหนี้ทันทีที่มีสัญญาณว่าอาจจะผ่อนค่างวดไม่ไหว เพื่อขอผ่อนผันการส่งค่างวดที่ตอบโจทย์รายได้และความสามารถในการชำระหนี้ภายใต้เงื่อนไขใหม่

อย่างไรก็ดี การผ่อนผันนี้เป็นการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ตามสัญญาออกไป โดยที่ภาระหนี้รวมไม่ลดลงแต่ยังเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยของค่างวดที่ยืดการจ่ายออกไป ถ้าเราเป็น NPL หรือค้างค่างวด 3 งวดติดกันแล้ว ยังมีโอกาสขอรับความช่วยเหลือ แต่..น้อยกว่ากรณีแรก

ก่อนอื่นขอแนะนำให้นับจำนวนวันที่ค้างชำระรวมตั้งแต่งวดแรกโดยด่วน และเร่งติดต่อเจ้าหนี้ก่อนถึงวันที่ 91 วัน (ตัวอย่างใบแจ้งหนี้ค่างวดทุกวันที่ 5 ถ้าไม่จ่าย 5 ม.ค., 5 ก.พ. และ 5 มี.ค. จนถึงวันที่ 5 มี.ค. เราค้างชำระ 3 งวดก็จริง แต่นับวันได้ 60 วัน) ระหว่างนี้ให้หมั่นสำรวจด้วยว่าได้รับจดหมายติดตามทวงถามหนี้หรือยัง (หลัง 5 มี.ค. เจ้าหนี้จะส่งจดหมายติดตามเพื่อแจ้งลูกหนี้ล่วงหน้า 30 วันก่อนยึดรถ) ซึ่งระยะเวลารอคอย 30 วันนี้ เป็นช่วงที่ควรสำรวจใจตัวเองว่า

จะปล่อยให้รถถูกยึด

  • ถ้าขายทอดตลาดได้ราคาดีกว่ามูลหนี้ที่ค้าง เราได้เงินคืนตามส่วน
  • แต่ถ้าขายได้ต่ำกว่ามูลหนี้ เรายังต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างราคา ทั้งนี้ ถ้าส่วนที่ขาดไม่สูงเกิน 3-4 หมื่นบาท เจ้าหนี้อาจยกประโยชน์ให้เพราะไม่คุ้มค่าฟ้อง แต่ถ้าส่วนต่างสูง เราต้องจ่ายตามมูลค่าที่ศาลตัดสินหรือจะพยายามรักษารถไว้
  • ต้องเจรจากับเจ้าหนี้และจ่ายหนี้เพื่อเลี่ยงการกลายเป็นลูกหนี้ NPL ก่อน จึงจะสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ แต่ไม่สามารถเลือกข้อ1 หรือพักค่างวดได้อีกต่อไป ทำได้เพียงการขอลดค่างวด-ขยายระยะเวลาคืนหนี้เท่านั้น

มีข่าวดีจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เตรียมหารือกับผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อในการเปิดช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อรถ ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับ “มาตรการไกล่เกลี่ยหนี้บัตรและสินเชื่อส่วนบุคคล”

โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อทั้งที่เป็นธนาคาร บริษัทลูกของธนาคาร และบริษัทลีสซิ่ง รวมถึงอาจมีการขยายระยะเวลาการขอรับความช่วยเหลือออกไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ด้วย จากเดิมที่จะสิ้นสุ ดภายใน 30 มิ.ย. 2564 อย่างไรก็ดี แนวทางให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปตามหลักการเดิม คือ สถานะลูกหนี้ไม่เป็น NPL และสามารถเลือกได้ว่าจะขอพักหนี้ หรือขอลดค่างวด

พึงตระหนักถึงมูลค่ารถที่มีแต่จะลดลงตามระยะเวลาและความเสื่อมสภาพ ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการใช้รถและการบำรุงรักษาต่อปีอีกไม่น้อย จึงควรพิจารณาถึงความจำเป็นในการซื้อรถ และความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้การมีรถกลายเป็นภาระที่สร้างปัญหาการเงินตามมาได้ โดยก่อนซื้อรถ ควรมีเงินออมเพื่อเป็นเงินดาวน์รถยิ่งสูงถึง 20-25% ยิ่งดี เพราะจะมีผลต่อดอกเบี้ยที่ต่ำลง ค่างวดและระยะเวลาผ่อนที่สมเหตุผล ทำให้สามารถปลดหนี้ได้เร็วมากขึ้น ขณะที่ถ้าเราติดกับดักจ่ายน้อย อาจต้องแลกมาด้วยการจ่ายแพงและจ่ายนาน