ค่าเงินบาททรงตัว แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศยังพุ่งสูง

เงินบาท

ค่าเงินบาททรงตัว แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศยังคงพุ่งสูง ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เตรียมเปิดเผยแผนงบประมาณรายจ่าย ปี 2565 ที่ระดับ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวการณ์เคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/5) ที่ระดับ 31.27/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (28/5) ที่ระดับ 31.25/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวทรงตัว ทั้งนี้ในวันศุกร์ (28/5)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE พื้นฐานไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญพุ่งขึ้น 3.1% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% และจากระดับ 1.9% ในเดือน มี.ค.

นอกจากนี้เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ (29/5) คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐได้เปิดเผยแผนงบประมาณรายจ่ายสำหรับปีงบประมาณ 2565 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือน ต.ค. ปีนี้ที่ระดับ 6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นระดับงบประมาณรายจ่ายสูงที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจะประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับปัจจัยภายในประเทศนักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ โดยวันนี้ (31/5) ศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 5,485 ราย ซึ่งถือป็นการเพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 3,532 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 1,953 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31,.22-28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/5) ที่ระดับ 1.2193/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (14/5) ที่ระดับ 1.2197/2200 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากการซื้อขายในตลาดทุนยังเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากตลาดหุ้นอังกฤษและตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันหยุด

นอกจากนี้ค่าเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังมีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเตือนดอยช์แบงก์ว่า ธนาคารยังไม่สามารถปรับปรุงการกำหนดดูแลด้านการป้องกันการฟอกเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเพียงพอจึงทำให้ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.2182-1.2204 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2191/94 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/5) ที่ระดับ 109.43/44 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (28/5) ที่ระดับ 109.68/71 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากกระแสเงินไหลออกจากการที่บริษัทส่งออกชาวญี่ปุ่นได้เทขายสกุลเงินดอลลาร์เพื่อทำการชำระบัญชีในช่วงสิ้นเดือน

นอกจากนี้ค่าเงินเยนยังถูกกดดันหลังจากเมื่อวันศุกร์ (28/5) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศขยายภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อไปจนถึงวันที่ 20 มิ.ย. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. โดยจะครอบคลุมพื้นที่ใน 9 จังหวัด

ทั้งนี้ระหวางวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.62-109.93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.66/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค. ของอังกฤษ (1/6), ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค.ของประเทศฝรั่งยุโรป (1/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค.ของสหรัฐ (1/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค.ของอังกฤษ (3/6),

ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค. ของประเทศฝั่งยุโรป (3/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ค.ของสหรัฐ (3/6), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (3/6), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (4/6), การช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือน เม.ย.ของญี่ปุ่น (4/6)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.55/+0.60 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศ อยู่ที่ +3.80/+4.80 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ