ธุรกิจประกันชีวิต 4 เดือน เบี้ยเกือบ 2 แสนล้าน โต 3.25% “สุขภาพ-ยูนิตลิงก์” พุ่ง

“สาระ ล่ำซำ” นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เผย 4 เดือนแรกปีนี้ ธุรกิจประกันชีวิต เบี้ยรวม 1.95 แสนล้านบาท โต 3.25% เบี้ยชำระครั้งเดียวหนุน อานิสงส์สินค้าประกันสุขภาพ-บำนาญ-ลงทุน” โตกระฉูด “ยูนิตลิงก์” ฮอตบวก 103.47% รับผลตอบแทนลงทุนหุ้นดีขึ้น ห่วงโควิดซัดช่องทางตัวแทนเหนื่อยโตแผ่วแค่ 0.94%

วันที่ 2 มิถุนายน 2564 นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการของอุตสาหกรรมประกันชีวิตช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 64) มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 195,544.03 ล้านบาท เติบโต 3.25% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากเบี้ยรับรายใหม่ 56,227.53 ล้านบาท เติบโต 10.38% แยกเป็นเบี้ยรับปีแรก 31,107.34 ล้านบาท ลดลง 6.35% เบี้ยจ่ายครั้งเดียว (ซิงเกิลพรีเมี่ยม) 25,120.19 ล้านบาท เติบโต 41.72% และเบี้ยรับปีต่อ 139,316.51 ล้านบาท เติบโต 0.63% อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 81%

โดยช่องทางตัวแทนประกันชีวิตยังคงเป็นช่องทางหลัก ด้วยเบี้ยรับรวม 91,040.64 ล้านบาท เติบโต 0.94% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 46.56% ของพอร์ตรวม รองลงมาเป็นการขายผ่านช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) มีเบี้ยรับรวม 83,587.68 ล้านบาท เติบโต 6.71% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 42.75% ของพอร์ตรวม ตามด้วยช่องทางนายหน้าประกันชีวิต มีเบี้ยรับรวม 10,355.61 ล้านบาท ลดลง 1.56% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 5.30% ของพอร์ตรวม และช่องทางอื่น ๆ มีเบี้ยรับรวม 5,565.67 ล้านบาท ลดลง 0.92% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 2.85% ของพอร์ตรวม

สาระ ล่ำซำ
สาระ ล่ำซำ

ขณะที่ช่องทางโทรศัพท์ มีเบี้ยรับรวม 4,778.66 ล้านบาท เติบโต 6.41% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 2.44% ช่องทางดิจิทัลเบี้ยรับรวม 202.57 ล้านบาท ลดลง 3.59% มีสัดส่วนรับของเบี้ยรับ 0.10% และช่องทางไปรษณีย์มีเบี้ยรับรวม 13.2 ล้านบาท ลดลง 15.22% มีสัดส่วนของเบี้ยรับ 0.01%

นายสาระกล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงคือผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) ซึ่งมีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 14,509.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึง 103.47% ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 32,025.87 ล้านบาท เติบโต 5.77% และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่อาจจะยังมีเบี้ยประกันภัยรับรวมไม่สูงมากนัก แต่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.57%

ทั้งนี้ จากการที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจากแบบประกันดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันได้ครบทุกช่วงวัย และยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนร่วมด้วยตามความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันภัยยอมรับได้ ประกอบสถานการณ์ปัจจุบันมูลค่าหุ้นและรายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ดีขึ้นด้วย

ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น 8-10% ทุกปี รวมถึงการระบาดโควิด และโรคร้ายแรงยังอยู่รอบตัวเรา ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น

ภาคธุรกิจจึงได้มีการปรับปรุงรูปแบบของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้สอดรับกับสถานการณ์มากขึ้น ทั้งในรูปแบบเหมาจ่ายหรือเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมรอบด้าน ตลอดจนบริการเสริมในด้านต่าง ๆ ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างดีที่สุดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคติดเชื้อโควิดหรือโรคร้ายอื่น ๆ ก็ตาม

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็ถือว่าเป็นแบบประกันที่ประชาชนเริ่มให้ความสนใจและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเข้าสูงสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติและ United Nations รายงานข้อมูลว่า ไทยจะมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป 20% และเข้าสู่ผู้สูงอายุระดับสุดยอดในปี 2574 โดยมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป 28%