หุ้นไทยแกว่งตัวไซด์เวย์ 1,600-1,625 จุด นักลงทุนรอตัวเลข CPI-ประชุมเฟด

หุ้นไทย-set

ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ 1,600-1,625 จุด นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอดูตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หนึ่งในดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ล่าสุดเฟดถอนสภาพคล่องออกจากตลาดเงินทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 4.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET Index แกว่งตัว sideways ระหว่าง 1,600-1,625 จุด ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอดูการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีโอกาสมากน้อยเพียงใดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะทำ QE Tapering หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ FED ยังคงทำธุรกรรม Reverse Repo ถอนสภาพคล่องออกจากตลาดการเงินอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้มียอดทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 4.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุดราชกิจจานุเบกษาประกาศให้สถานพยาบาลเอกชนและภาคเอกชน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดหาวัคซีน COVID-19 มาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ได้แล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนได้มากขึ้น แต่การดำเนินงานจัดหาและนำเข้ายังต้องผ่านหน่วยงานกรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย หรือราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ปรับลดคำแนะนำการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลก ลงกว่า 110 ประเทศ โดยระดับของคำแนะนำมีทั้งหมด 4 ระดับ ซึ่งระดับสูงสุดคือระดับที่ 4 หมายความว่าการเดินทางข้ามไปประเทศเหล่านั้นจะต้องเป็นนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบจำนวนโดสที่แนะนำแล้วเท่านั้น โดยทาง CDC ปรับลดระดับคำแนะนำจากระดับ 4 สู่ระดับ 3 ราม 61 ประเทศ ซึ่งสหรัฐก็เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ และ CDC ยังปรับลดระดับคำแนะนำอีกกว่า 50 ประเทศลงมาที่ระดับ 2 และระดับ 1

ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเปิดการเดินทางข้ามประเทศทั่วโลกที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตามวันนี้คือ 1.CPI เดือน พ.ค.ของจีน ตลาดคาดขยายตัว 1.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ดีกว่าเดือนก่อนที่ขยายตัวเพียง 0.9% และ 2.สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ตลาดคาดลดลง 2.036 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนที่สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.08 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ทาง ส.ว.สหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในอดีตที่ผ่านมา โดยมีขนาดวงเงินราว 2.5 แสนล้านดอลลาร์ สนับสนุนด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าสหรัฐจะยังแข็งแกร่งกว่าประเทศจีน