หุ้นไทยแกว่งตัว 1,610-1,635 จุด รับเงินทุนต่างชาติไหลกลับประเทศกลุ่ม TIP

หุ้น

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว 1,610-1,635 จุด รับเงินทุนต่างชาติไหลกลับกลุ่ม TIP-หุ้นใหญ่พื้นฐานดีราคายัง laggard เป้าหมายลงทุน โดยเฉพาะ “ธนาคาร-การแพทย์-ท่องเที่ยว-ค้าปลีก” ติดตามศุกร์นี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เข้าหารือ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอจัดสรร “ซิโนฟาร์ม”

วันที่ 10 มิถุนายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า เช้านี้ยังแกว่งตัว sideways ต่อเนื่องระหว่างรอปัจจัยใหม่ แต่ยกกรอบขึ้นเล็กน้อย มาที่ 1,610-1,635 จุด หลังแกว่งกรอบ 1,600-1,625 จุด มาตลอดสัปดาห์

แม้จะได้รับอานิสงส์จากการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) แต่คาดว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ รวมถึงการติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ เพื่อสะท้อนแนวโน้มนโยบายการเงินของประเทศหลักในระยะต่อไป จึงน่าจะทำให้ตลาดยังขยับไปไหนไม่ได้ไกล

โดยเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้าตลาดโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้าประเทศในกลุ่ม TIP ชัดเจน หลังเริ่มเห็นความคืบหน้าการฉีดวัคซีน COVID-19 ในประเทศกลุ่ม TIP (ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์)

ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเหล่านี้ยังฟื้นตัวได้ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 แตกต่างจากกลุ่มประเทศในแถบเอเชียเหนือที่ดัชนีตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นไปเหนือระดับ Pre-COVID-19 ค่อนข้างมากแล้ว

ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยมองว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่พื้นฐานดี แต่ราคายัง laggard และมี valuation ที่น่าสนใจ จะเป็นเป้าหมายการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่รับประโยชน์จากความหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว รวมถึงได้แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ อาทิ ธนาคาร, การแพทย์, ท่องเที่ยว และค้าปลีก เป็นต้น

คืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สัปดาห์หน้า:1.Core CPI เดือน พ.ค. โดยตลาดคาดขยายตัว 3.4% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มากกว่าเดือนก่อนที่ขยายตัว 3.0%  และ 2.ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 3.7 แสนราย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มขึ้น 3.85 แสนราย

หากตัวเลขออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด ก็อาจทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอีกครั้ง และอาจส่งผลให้การประชุม FED ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ ตัดสินใจเริ่มส่งสัญญาณการทำ QE Tapering ออกมาก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ล่าสุดปรับตัวลงมาที่ระดับ 1.48% ซึ่งถือเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมไว้ก่อน

ศุกร์นี้ (11 มิ.ย.) สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เข้าหารือ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอจัดสรรซิโนฟาร์ม โดย นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า วัคซีนที่จะได้รับจัดสรรแก่สมาคม เบื้องต้นจะฉีดให้กับพนักงานในโรงพยาบาลก่อน เพราะมีเงื่อนไขว่ายังไม่สามารถนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ และจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับก็อาจมีจำนวนไม่มากราว 1 แสนโดส เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทเอกชนรายใหญ่ได้สั่งวัคซีนไปฉีดให้กับพนักงานเป็นจำนวนมาก