หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบจำกัด 1,615-1,630 จุด นักลงทุนรอผลประชุมเฟดคืนนี้

หุ้น

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวไม่ไปไหนไกล เคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,630 จุด นักลงทุนรอความชัดเจนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐคืนนี้ แนะกลยุทธ์ลงทุน มองการย่อตัวลงเป็นโอกาสสะสมหุ้นพื้นฐานดีและหุ้นเปิดเมือง สัดส่วนไม่เกิน 50% ของพอร์ตการลงทุน จับตาการประชุม กนง. 23 มิ.ย. อาจจะส่งสัญญาณการปรับนโยบายการเงิน

วันที่ 16 มิถุนายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า หลังวานนี้ SET Index เผชิญแรงขายในช่วงบ่ายจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การลดสถานะลงทุนเพื่อรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และ 2.นายกรัฐมนตรีหารือ ธปท. ทบทวนเพดานดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารและการเงินปรับตัวลงฉุดตลาด ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,630 จุดได้

จึงคาดเช้านี้ SET Index จะมีโอกาสแกว่งตัวออกข้างต่อในกรอบระหว่าง 1,615-1,630 จุด ไม่ไปไหนไกล และจะยังไม่เลือกทิศทางจนกว่าปัจจัยเรื่องการประชุมเฟดจะออกมาชัดเจนถึงแนวทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของเฟดในระยะถัดไป

โดยกลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายวิจัยมองการย่อตัวลงเป็นโอกาสสะสมหุ้นพื้นฐานดีและหุ้นเปิดเมือง ในสัดส่วนไม่เกิน 50% ของพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ติดตามผลการประชุม FOMC ของเฟดคืนนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม ที่ 0.00-0.25% ต่อปี และคงวงเงินการซื้อพันธบัตรผ่านมาตรการ QE ไว้ที่ 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นักเศรษฐศาสตร์คาดในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะเริ่มพูดคุยถึงการทำ QE Tapering ในขั้นต้นเท่านั้น แต่รายละเอียดทั้งหมดจะถูกพูดคุยอย่างเป็นทางการในการประชุมประจำปีช่วงเดือน ส.ค. 64

และในครั้งนี้สิ่งที่ต้องจับตาคือท่าทีของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เกี่ยวกับคาดการณ์เศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และโดยเฉพาะการจ้างงานที่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการพิจารณาทำ QE Tapering รวมถึง Dot Plot ของการประชุมในครั้งนี้ ส่วนคาดการณ์การทำ QE Tapering น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าในเดือน ม.ค. 65 แล้ว จึงขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในเดือน ธ.ค. 65 หรือ ม.ค. 66 ตามแผนเดิม

สำหรับประเด็นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่าได้หารือกับทาง ธปท. ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนโดยระยะสั้นขีดเส้น 6 เดือน โดยขอให้ทบทวนเรื่องเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ ทั้งนี้ ต้องรอติดตามท่าทีของ ธปท. ว่าจะมีมาตรการหรือนโยบายใด ๆ อกมาตอบรับ นอกจากนี้ยังควรจับตาการประชุม กนง.ไทยอีกครั้งในวันที่ 23 มิ.ย. 64 ว่า นอกจากปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงแล้ว กนง. จะส่งสัญญาณการปรับนโยบายการเงินอย่างไรต่อไป

ความคืบหน้าปูพรมฉีดวัดซีนของไทยยังต้องติดตามใกล้ชิด แม้ว่าวานนี้ตัวเลขการกระจายวัคซีนจะกลับมาที่ 3.2 แสนโดสอีกครั้ง แต่หลายโรงพยาบาลยังคงเลื่อนการเข้ารับวัคซีนต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยยังมองเป็นปัจจัยระยะสั้นและเชื่อว่ารัฐบาลน่าจะจัดสรรวัคซีนมาเพิ่มได้ แม้อาจจะไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ของเดือน มิ.ย. 64 จำนวน 6 ล้านโดส