หุ้นไทยแกว่งตัว 1,610-1,630 จุด กลุ่มพลังงานกดดันตลาดรับอุปสงค์น้ำมันชะลอตัว

หุ้นไทยแกว่งตัว 1,610-1,630 จุด กลุ่มพลังงานกดดันตลาดรับอุปสงค์น้ำมันชะลอตัว-จับตาประชุม ศบค.ชุดใหญ่

วันที่ 18 มิถุนายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนีแกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงตามภูมิภาคส่วนใหญ่หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เผยท่าทีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาดในปี 2566 แต่เชื่อว่าตลาดตอบรับไประดับหนึ่งแล้ว หลังจากคาดตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศมากขึ้น ได้แก่ 1.การกระจายวัคซีนของไทย 2.แผนการเปิดประเทศ 120 วัน และ 3.การเมืองภายในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยเช้านี้คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวออกข้างรอติดตามปัจจัยใหม่ในกรอบระหว่าง 1,610-1,630 จุด แม้การย่อตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกทั้ง WTI และ BRT ราว 1.5% และ 1.8% ตามลำดับ จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังมีรายงานว่าอังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่นรายในวันเดียว อาจส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานอยู่บ้าง หากแต่ความคาดหวังเรื่องการผ่อนคลายมาตรการภายในประเทศน่าจะช่วยประคองการอ่อนตัวไว้ระดับหนึ่งได้

จึงเน้นการติดตามผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายภายในประเทศในวันนี้ และความคืบหน้าการกระจายวัคซีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดในรอบใหม่ได้

กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำกลยุทธ์ “ซื้อเมื่อราคาย่อตัว” ในหุ้นกลุ่มพื้นฐานดีที่ราคายัง Laggard และหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่ได้ประโยชน์จากการกระจายวัคซีนและแผนเปิดประเทศ ในสัดส่วนไม่เกิน 50% ของพอร์ตการลงทุน

วันนี้ติดตามการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายภายในประเทศ โดยคาดว่าจะคลายล็อกร้านอาหารให้กลับมานั่งรับประทานได้เต็มรูปแบบ รวมถึงธุรกิจกลางคืนต่าง ๆ ทั้งนี้ ศบค. ต้องรอการประเมินจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกิจการและกิจกรรมอื่น ๆ ยังคงต้องติดตามในระยะถัดไป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศยังสูง และการกระจายวัคซีนยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การแพร่ระบาดลดลง อีกทั้งจะมีผลไปถึงแผนการเปิดประเทศ 120 วัน ให้ต้องเลื่อนออกไปหากคุมการระบาดไม่ได้หรือมีสายพันธุ์ใหมระบาดมากขึ้นไปทดสอบขีดจำกัดทางด้านสาธารณสุขไทยอีกครั้ง


ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า 1.ติดตามการประชุม กนง.ครั้งที่ 4 ของไทยในวันที่ 23 มิ.ย. คาดว่า กนง.น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ตามเดิม อีกทั้งน่าจะมีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือขยายตัวใกล้เคียงค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ราว 1.5-1.8% 2.กระทรวงการคลังเตรียมเปิดลงทะเบียนโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” วันที่ 21 มิ.ย. 64 จำนวน 4 ล้านสิทธิ์ และ 3. การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบการเลือกตั้งอาจกลับไปใช้บัตร 2 ใบ แยกกันระหว่าง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขตเลือกตั้ง