เงินบาทขยับอ่อนค่า 31.60 บาท จับตาประชุมกนง.คงดอกเบี้ย 0.50%

เงินบาท

แบงก์ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า 21-25 มิ.ย.64 เคลื่อนไหวอ่อนค่า 31.20-31.60 บาทต่อดอลลาร์ จับตาประชุมกนง.-บีโออี-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดธปท.คงดอกเบี้ย 0.50%

วันที่ 20 มิถุนายน 2564 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (วันที่ 21-25 มิถุนายน 2564) คาดกรอบเงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.20-31.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยทิศทางยังมองว่าเงินบาทอ่อนค่า จากกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยประเมิน ทั้งนี้ จะเห็นกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) จะมีความผันผวนมากขึ้น ขณะที่ผู้เล่นในตลาดโลกปรับลดสถานะขายดอลลาร์เพื่อรอดูความชัดเจนต่อไปจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

“ปัจจัยชี้นำค่าเงินยังคงอยู่ที่การย่อยข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ส่วนในประเทศติดตามข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนพ.ค. และผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ตามเดิม”

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า 21-25 มิถุนายน 2564 คาดไว้ที่ระดับ 31.20-31.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนพฤษภาคม และผลการประชุมนโยบายการเงิน (กนง.) และประมาณการเศรษฐกิจไทยของกนง. สถานการณ์และแผนการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ในประเทศ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนพฤษภาคม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 (ครั้งที่ 3)


“นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ดัชนี PMI เดือนมิถุนายน (เบื้องต้น) ของยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของธนาคารกลางจีนด้วยเช่นกัน”