คลัง-แบงก์รัฐ เด้งรับคำสั่งนายกฯ หั่นดอกเบี้ยอุ้มลูกหนี้ยาวถึงสิ้นปี

ลดดอกเบี้ย-covid-ช่วยประชาชน

“คลัง-แบงก์รัฐ” เด้งรับนโยบายนายกฯ สั่งลดดอกเบี้ย โฟกัสช่วยเอสเอ็มอีกลุ่ม “ร้านอาหาร-ท่องเที่ยว” ยาวถึงสิ้นปีนี้ “ออมสิน” จัดให้ทันควันพักทั้งต้นทั้งดอก “ปลอดเงินงวด 6 เดือน” เน้นธุรกิจ “โรงแรม-รีสอร์ต-เกสต์เฮาส์-เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์” ขณะที่ “ธอส.” ขยายเวลาลดเงินงวดลูกหนี้สินเชื่อบ้านถึงสิ้นปี ด้าน “ธ.ก.ส.” เล็งยืดเวลาพักหนี้ยาวถึงปี’65

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐไปพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% จนถึงปลายปี 2564 นี้ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่มอบนโยบายให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หาแนวทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนคนไทยภายใน 6 เดือน

“ที่ผ่านมาแบงก์รัฐก็ดำเนินนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว แต่ก็จะมีบางแบงก์ที่อาจช่วยเหลือประชาชนได้เพิ่มเติม คลังได้ให้แบงก์รัฐกลับไปพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ แล้วส่งเรื่องกลับมาให้คลังภายในสัปดาห์นี้ ตอนนี้มี 1 แบงก์แล้วที่ส่งเรื่องกลับมา โดยเสนอช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบจนถึงปลายปีนี้ ตามที่นายกฯสั่งลดดอกเบี้ยนั้นเราก็จะพิจารณาตามคุณภาพของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยจะลดดอกเบี้ยให้ทั้งผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา” นายกฤษฎากล่าว

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวว่า ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งกลุ่มโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการให้สามารถประคับประคองธุรกิจจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย และกิจการกลับมามีรายได้อีกครั้ง

“มาตรการดังกล่าวจะทำให้เงินงวดเป็นศูนย์ในช่วงเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่งวดเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 โดยให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ที่สาขาธนาคารออมสิน หรือศูนย์สินเชื่อธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้ติดต่อขอสินเชื่อไว้ หมดเขตแจ้งความประสงค์วันที่ 23 ก.ค. 2564” นายวิทัยกล่าว

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.เตรียมขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามเงื่อนไขของแต่ละมาตรการที่ธนาคารดำเนินการอยู่ไปจนถึงสิ้นปี 2564 เช่น ลดเงินงวดผ่อนชำระเหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75%

ของเงินงวดที่ผ่อนชำระในปัจจุบัน ซึ่งเงินงวดที่ผ่อนชำระจะนำไปตัดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือการพักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เป็นต้น โดย ธอส.จะเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการก่อนต้นเดือน ก.ค.นี้

และในช่วงเดือน ต.ค.ธนาคารจะเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์อีกครั้งว่ายังต้องการเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวอยู่หรือไม่ ซึ่งหากสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้วลูกค้าก็อาจจะมีความประสงค์ออกจากมาตรการช่วยเหลือก่อนถึงสิ้นปี

แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือลูกค้าเกษตรกรเพิ่มเติมเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 3 รุนแรงกว่าที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะพิจารณาขยายระยะเวลาพักชำระหนี้ช่วยเหลือลูกค้าไปจนถึงเดือน มี.ค. 2565

ขณะที่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ธ.ก.ส.จะออกสินเชื่อเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุน วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% ขอสินเชื่อได้สูงสุด 100,000 บาทต่อราย และโครงการสินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ที่นำนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ในงานเกษตร วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% โดยเกษตรกรทั่วไปสามารถขอสินเชื่อได้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท