กรุงไทย ชี้เห็นเงินบาทอ่อนแตะ 32.50 บาทตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว

กรุงไทย เงินบาท

แบงก์ประเมินกรอบค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์ จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-รายงานการประชุมเฟด-สถานการณ์โควิด-19 ในและต่างประทศ “กรุงไทย” เผยมีโอกาสบาทแตะกรอบบน 32.50 บาทต่อดอลลาร์

วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 5-9 กรกฎาคม 64) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามและมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาท จะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนี PMI ของสหรัฐฯ หากตัวเลขสะท้อนออกมาดี จะทำให้ดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าได้

นอกจากนี้ จะมีสรุปรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดจะรอดูว่าปัจจัยที่ทำให้เฟดลดการทำนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือที่มองการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ขณะที่ติดตามสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรป และสถานการณ์ในประเทศ

สำหรับทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) โดยในส่วนของตลาดพันธบัตรนักลงทุนซื้อสุทธิ 11,822 ล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นไหลออกสุทธิ 9,564 ล้านบาท

“บาทมีโอกาสเห็นอ่อนค่าแตะกรอบบน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี และตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันก็จะเป็นบวกต่ออียู อย่างไรก็ดี เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามช่วยไม่ให้บาทอ่อนค่าเร็วจนเกินไป”

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าในวันที่ 5-9 ก.ค. 64 กรอบอยู่ที่ 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม จะเป็นสถานการณ์โควิด-19 และการฉีดวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนี PMI/ ISM ภาคบริการเดือน มิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน พ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย.64

นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือน มิ.ย. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของจีนด้วยเช่นกัน