บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยยังไซจ์เวย์ จากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งต่อเนื่อง-ที่ประชุม G20 ยังกังวลเชื้อกลายพันธุ์กระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก บวกปัญหาข้อพิพาทการค้า “สหรัฐ-จีน” มีแววปะทุ หลังโจ ไบเดน เตรียมเพิ่มชื่อบริษัทและหน่วยงานจีนอีกอย่างน้อย 10 แห่งในบัญชีดำ ให้กรอบดัชนีเคลื่อนไหว 1,520-1,580 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้ประโยชน์ WFH
วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีโอกาสแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยแรงกดดันหลักยังอยูที่สถานการณ์โควิดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง และล่าสุดทางกลุ่มประเทศ G20 กังวลว่าเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ขณะที่ปัญหาข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนมีแววปะทุขึ้นอีกครั้งจากการที่คณะบริหารของโจ ไบเดน วางแผนเพิ่มชื่อบริษัทและหน่วยงานจีนอีกอย่างน้อย 10 แห่ง ในบัญชีดำทางเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับทาง EU ได้ลงมติเห็นชอบให้ตัวแทนทางการทูตร่วมบอยคอตการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตามคาดว่าจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI จะช่วยพยุงตลาดไว้ได้ จึงคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,520-1,580 จุด
ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตานั้นปัจจัยในประเทศ อาทิ ประชุม ครม. การเตรียมเปิด “สมุย พลัส โมเดล” การแจ้งงบฯไตรมาส 2/64 ของหุ้นกลุ่มธนาคารระหว่าง 15 – 21 ก.ค.นี้ และประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
ด้านปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นตัวเลขเศรษฐกิจในแต่ละเดือนที่จะทยอยประกาศออกมา เช่น การรายงานยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือน มิ.ย.ของจีน และการรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าทางนายพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร อียูรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ อีกทั้งจีนรายงาน GDP ไตรมาส 2/64 อัตราว่างงานเดือน มิ.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. ส่วนสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก WFH ได้แก่ ADVANC- DTAC- TRUE -JAS DIF –JASIF- ITEL- INSET-NETBAY –YGG และ AS
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้น 39$/Oz สู่ 1,806$/Oz โดยราคาทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า โดยล่าสุดรัฐบาลออสเตรเลียประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า
นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะระดับ 1.33% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 และ World Gold Council ซึ่งระบุว่า 1 ใน 5 ของธนาคารกลางรายใหญ่มีแผนที่จะเพิ่มทองคำในระบบทุนสำรองในปีหน้าเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณรีบาวนด์ทางเทคนิคจากการสร้างรูปแบบกลับตัว U Shape โดยฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำที่ 1,780-1,830$/Oz และแนะนำให้เล่นฝั่ง Short เมื่อมีการรีบาวนด์ เนื่องจากมีคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ลง 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมเฟดเดือน ส.ค. เป็นปัจจัยกดดันต่อทองคำในระยะกลาง