“GSTEL” ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ หลังเจ้าหนี้การค้าฟ้องล้มละลาย เหตุไม่สามารถชำระหนี้ 7.8 พันล้านคืนได้ ด้านผู้บริหารยืนยันขอฟื้นฟูเพื่อกลับมาแข็งแกร่ง เป็นทางออกปกป้องผู้ถือหุ้นรายย่อย พร้อมยื่นขอ ตลท.แขวน SP พักซื้อขายชั่วคราว 15 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ (14 พ.ย.60) บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) GSTEL ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ภายหลังเจ้าหนี้การค้าได้ทวงถามให้ชำระหนี้สิน แต่เนื่องจากแผนฟื้นฟูกิจการที่ต้องการแปลงหนี้เป็นทุนตามที่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7.8 พันล้านบาท
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
สุนทรียา วงศ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบัญชีและการเงิน GSTEL กล่าวว่า การเข้าฟื้นฟูกิจการเป็นแนวทางที่ดี เพื่อให้บริษัทกลับมาแข็งแรง สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งปัจจุบัน จีสตีลยังดำเนินธุรกินตามปกติ แต่ปัญหาเจ้าหนี้การค้าที่ยืดเยื้อสะสมมานาน 9 ปี ทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน จากปัญหาต้นทุนการเงินที่สูง นอกจากนี้การประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นบางราย ไม่เห็นด้วยจากการแปลงหนี้เป็นทุนของกองทุนต่างชาติ ส่งผลให้เจ้าหนี้การค้าฟ้องล้มละลาย
“การฟ้องร้องล้มละลาย ทำให้ประมาณการหนี้สินในอนาคตเกิดขึ้น และทำให้ส่วนทุนที่มีอยู่ติดลบ จึงต้องเดินเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ จากการบังคับฟ้องล้มละลายของเจ้าหนี้การค้า ขณะเดียวกันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ( D/E ) ก็สูงถึง 47 เท่า เงินทุนจึงไม่เพียงพอดำเนินธุรกิจ”
ทั้งนี้ บริษัทคาดใช้เวลาไม่นาน เพื่อแก้ไขให้ธุรกิจกลับมาเดินได้ปกติ และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้ศึกษาข้อมูลบริษัท จากกรณีของการยื่นขอฟื้นฟูกิจการ บริษัทจึงได้ยื่นขอ ตลท.เพื่อทำการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (SP) เป็นเวลา 1 วัน ในวันที่ 15 พ.ย.2560 ส่วนกรอบเวลาขอฟื้นฟูกิจการนั้น คาดว่าศาลล้มละลายกลางจะพิจารณาคำขอภายในสัปดาห์หน้า