หุ้นไทยอิงทางลง 1,545-1,560 จุด-ผลประชุม ECB ประคองตลาด

ตลาดหุ้น-1
ภาพ Pixabay

ตลาดหุ้นไทยอิงทางลงอ่อน ๆ ในกรอบแคบ 1,545-1,560 จุด หลังเผชิญยอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 14,575 ราย จำนวนผู้เสียชีวิต 114 ราย แต่ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป คอยประคองตลาดหุ้น หลัง “คริสติน ลาการ์ด” ประธาน ECB ยืนยันจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมาย 2% ที่ตั้งไว้

วันที่ 23 กรกฎาคม  2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า แกว่งตัวออกข้างอิงทางลงในกรอบแคบระหว่าง 1,545-1,560 จุดท่ามกลางความกังวลของสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในประเทศ ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 14,575 ราย พร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิต 114 ราย ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจเร่งตัวขึ้นต่อได้หลังประชาชนสามารถเข้าถึง Antigen Test Kit ได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถตรวจหาการติดเชื้อได้ด้วยตัวเอง ขณะที่นักลงทุนบางส่วนขายลดความเสี่ยงก่อนเข้าช่วงคาบเกี่ยววันหยุดในสัปดาห์หน้า

“จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจยังไม่ถึงจุดสูงสุดหลังประชาชนเข้าถึง Antigen Test Kit ง่ายขึ้น ทางฝ่ายคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจจะยังเร่งตัวขึ้นต่อได้จากการตรวจด้วย Antigen Test Kit ที่มีมากขึ้น แต่มองว่าตลาดน่าจะรับรู้ความเสี่ยงของปัจจัยนี้ไประดับหนึ่งแล้ว จึงไม่น่าเกิด Panic Sell ยกเว้นว่าสถานการณ์มีพัฒนาการเชิงลบที่รวดเร็วและรุนแรง”

ส่วนที่เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สปสช. และ สธ. ทดลองใช้ Antigen Test Kit ตรวจในชุมชนและพื้นที่ต่าง ๆ ราว 5 หมื่นราย พบว่าได้ผลบวกประมาณ 10% และเมื่อนำผลบวกนี้ไปตรวจซ้ำกับวิธี RT-PCR จะพบว่ามีการตรวจผิดพลาดไม่เกิน 3% จึงหมายความว่าชุดตรวจ Antigen Test Kit ใช้ได้ผลดีและถือว่ามีความแม่นยำระดับหนึ่ง

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐวานนี้ (22 ก.ค.) ดูน่าผิดหวังหลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมา 4.19 แสนราย สูงกว่าที่ตลาดคาด 3.50 แสนราย อีกทั้งยอดขายบ้านมือสองในเดือน มิ.ย. ออกมา 5.86 ล้านหลัง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 5.90 ล้านหลัง ขณะที่ประเด็นช่วยคอยประคองตลาดได้บ้างคือผลการประชุม ECB โดยนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป ยืนยันจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายตามเดิม

ขณะที่ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงิน ในการซื้อพันธบัตรตามเดิม ตามโครงการ PEPP ที่วงเงินระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร จนถึงเดือน มี.ค. 65 และ ECB ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมาย 2% ที่ตั้งไว้


สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ได้แก่ 1.เช้านี้ติดตามตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของประเทศประจำเดือนมิถุนายน โดยตลาดคาดส่งออกจะขยายตัวราว 38.98% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 41.59% และคาดนำเข้าขยายตัว 46.30% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 63.54% 2.คืนนี้ติดตามตัวเลข Manufacturing PMI และ Services PMI ของเดือน ก.ค.