ประกันชีวิต Q3 เจอมรสุม “ปิดเมือง-ปิดห้าง” ฉุดเบี้ย

ธุรกิจประกันอ่วม “ล็อกดาวน์-ปิดห้าง” ฉุดยอดขาย Q3 ดรอป “กรุงเทพประกันชีวิต” ชี้กระทบเบี้ยขายผ่านแบงก์ เหตุสาขาในห้างถูกปิด ส่วนช่องทางตัวแทนเดินทางสอบใบอนุญาตไม่ได้ ส่งผล “ไม่มีตัวแทนขายใหม่” สมาคมประกันชีวิตไทยเร่งถก คปภ.ผ่อนปรนสอบออนไลน์ ด้าน “อลิอันซ์ฯ” ปรับตัวให้ตัวแทนขายออนไลน์ พร้อมเตรียมกระตุ้นยอดครึ่งปีหลังด้วยหนังโฆษณาชุดใหม่

ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง 13 จังหวัด เพื่อคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีการปิดห้างสรรพสินค้าด้วย ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต้องประกาศปิดสาขาในห้างลงชั่วคราวด้วยนั้น

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายประกันแน่นอน โดยเฉพาะบริษัทประกันที่มีพอร์ต หรือยอดขายส่วนใหญ่มาจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ (ขายประกันผ่านธนาคาร) ขณะเดียวกันช่องทางตัวแทนเองก็ได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้สั่งหยุดสอบใบอนุญาตตัวแทน เพื่อป้องกันโควิด ซึ่งทำให้ไม่มีตัวแทนใหม่เข้ามา และยังไม่สามารถขอสอบใบอนุญาตออนไลน์ได้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางสมาคมประกันชีวิตไทยกำลังพูดคุยกับ คปภ.ขอคุมสอบใบอนุญาตตัวแทนผ่านออนไลน์ ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ

“สาขาแบงก์ในห้างจะมีพนักงานขายประกันเก่ง และมีลูกค้าเยอะกว่าสาขาแบบ stand alone ทำให้เบี้ยจะดรอปลง แม้ทาง คปภ.ได้เปิดช่องทาง digital non face to-face ให้ธนาคารปรับตัวใช้วิธีขายผ่านทางโทรศัพท์แทนได้ แต่ก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละแบงก์ เท่าที่ประเมินคาดว่าไม่น่าจะทดแทนการขายประกันผ่านสาขาแบงก์ได้ ขณะที่ช่องทางตัวแทน ก็ไม่มีตัวแทนใหม่ ดังนั้นตัวแทนเก่าต้องขายให้เต็มศักยภาพ แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้คนก็ไม่อยากให้เข้าไปพบ” ม.ล.จิรเศรษฐกล่าว

ทั้งนี้ ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ จะเห็นได้ว่า เบี้ยประกันชีวิตประเภทสามัญ (ordinary life insurance) ติดลบไปกว่า 10% แต่ที่ภาพรวมยังเป็นบวกได้ เป็นเพราะบริษัทประกันขนาดใหญ่ 6-7 บริษัท มียอดขายจากสินค้าประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) ค่อนข้างสูง ซึ่งสินค้ายูนิตลิงก์มีขนาดเบี้ยก้อนใหญ่ ทำให้เบี้ยโดยรวมไม่แย่

“ครึ่งปีแรกจะเห็นดัชนีตลาดหุ้นไทยวิ่งขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้สินค้ายูนิตลิงก์ดึงดูดน่าซื้อ แต่ตอนนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างแกว่งพอสมควร ดังนั้น ถ้ายอดขายยูนิตลิงก์มีปัญหา ก็อาจจะทำให้ภาพรวมเบี้ยปรับตัวลงในครึ่งปีหลัง” ม.ล.จิรเศรษฐกล่าว

ม.ล.จิรเศรษฐกล่าวอีกว่า เชื่อว่าไตรมาส 3 นี้ เบี้ยจะติดลบแน่นอน แต่ช่วงไตรมาส 4 หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายมากขึ้น ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นทางภาษีเหมือนปีที่แล้ว ก็น่าจะมีแรงหนุนจากการซื้อสินค้าประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษี ในขณะที่สินค้ายูนิตลิงก์ ก็จะได้แรงหนุนจากดัชนีตลาดหุ้นฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิดเข้ามาช่วยดันยอดขายประกันได้

“ถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์จะช่วยพยุงภาพรวมเบี้ยประกันได้มาก แต่ส่วนตัวประเมินภาพรวมเบี้ยปีนี้ทั้งระบบไม่น่าติดลบเกิน 2-3%” ม.ล.จิรเศรษฐกล่าว

สำหรับผลดำเนินงานของกรุงเทพประกันชีวิต แม้ว่าตอนนี้เคลมประกันโควิดเพิ่มสูงขึ้น แต่เคลมปกติหายไป ทำให้ภาพรวมเคลมไม่ได้กระโดดขึ้นมาก โดยผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ที่จะประกาศออกมายังเป็นบวก ส่วนทั้งปียังคงเป้าการเติบโตของเบี้ยรับรายใหม่เป็นตัวเลขสองหลัก

“เราประเมินเบี้ยใหม่อาจจะโต 10% แต่เบี้ยปีต่อ ซึ่งเป็นเบี้ยก้อนใหญ่โตแค่ 2% ดังนั้นจะทำให้ภาพรวมเบี้ยประกันชีวิตรับรวมของบริษัทโต 5-6% ในปีนี้” ม.ล.จิรเศรษฐกล่าว

นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า แม้สถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจบ้าง แต่ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งยังคงเติบโตไปได้ในทุกช่องทางโดยบริษัทปรับตัวสำหรับช่องทางตัวแทน มีระบบ Digital Non Face to Face ให้สามารถเสนอและปิดการขายให้ลูกค้าได้แบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมียอดส่งงานผ่านระบบนี้กว่า 96% แล้ว

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้ตัวแทนนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพใหม่ที่ให้สิทธิประโยชน์ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายง่าย ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 3,000 กรมธรรม์ ตั้งแต่เปิดตัวกลางเดือน มี.ค. 2564


“ยังมีผู้บริโภคอีกมาก ที่ยังมองหาความคุ้มครองสุขภาพ และสามารถจัดสรรเงินมาซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะกับตนเองจึงถือเป็นโอกาสที่ยังมี อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี เป็นช่วงที่บริษัทจะออกหนังโฆษณาเพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้า ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือที่สนับสนุนการขายของตัวแทนในไตรมาส 3-4 นี้” นายวิรงค์กล่าว