MFC เปิดไอพีโอกองหุ้นจีน 2-10 ส.ค. ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

ตลาดหุ้นไทย
ภาพ : Pixabay

บลจ.เอ็มเอฟซี เตรียมออกกองทุนเปิด MCHEVO เน้นลงทุน 5 กลุ่มหุ้นอุตสาหกรรมดาวเด่น ที่ได้รับอานิสงส์จากวิวัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมจีน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนเติบโตระยะยาว ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท เริ่มเปิดซื้อขายระหว่างวันที่ 2-10 ส.ค. 64

วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวว่า กองทุน MCHEVO มีความโดดเด่นและน่าสนใจ เนื่องจากเป็นกองทุนเปิดที่ลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลและเติบโตไปพร้อมกับความก้าวหน้าของเศรษฐกิจจีนที่จะมีขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลกในปี 2573

ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์

ผ่านการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก ทั้งในเชิงมหภาค (Top-down) และในเชิงการคัดเลือกหลักทรัพย์ (Bottom-up) โดยปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ เน้นลงทุนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตระยะยาวของพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมของจีน ได้แก่

1. Consumption รวมถึง E-commerce ที่เติบโตสูงตามการขยายตัวของสังคมเมือง

2. Technology รวมถึง Cloud Computing ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล

3. Industrial การผลิตโดยใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

4. Clean Energy & Electric Vehicles พลังงานสะอาดและการขนส่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และ

5. Healthcare การสาธารณสุขรูปแบบโทรเวชกรรมและการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ

MCHEVO จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุน ในการเพิ่มโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตระยะยาวของพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมจีน

นายชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการกองทุน MFC กล่าวว่า กอง MCHEVO เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน 5 ธีมการลงทุนที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยสนับสนุนด้านนโยบายของรัฐบาลจีน เช่น นโยบาย “Made In China 2025” ที่จะปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจจีนไปสู่ “New Economy” โดยเน้นเรื่องของนวัตกรรม และเทคโนโลยี, นโยบาย “Dual Circulation”, แผนพัฒนาประเทศจีน 5 ปี (ฉบับที่ 14), “2035 Vision Plan”, และ “Healthy China 2030”

นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านโครงสร้างประชากรจีนที่มีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น ที่ชนชั้นกลางมีรายได้สูงขึ้น และความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้พอร์ตการลงทุนในธุรกิจตามธีมการลงทุนดังกล่าวจะเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของจีนได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

MCHEVO เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ กลุ่มการบริโภค, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มอุตสาหกรรมอัตโนมัติ, กลุ่มพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า, กลุ่มนวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุข

โดยลงทุนผ่านสองกองทุนหลักที่มีการบริหารเชิงรุก (Active) เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง ด้วยสไตล์ของแต่ละกองทุนที่ต่างกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์พอร์ตการลงทุนจำลองมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น สองกองทุนหลักที่ได้คัดสรรมา ได้แก่

1. Global X China Innovator Active ETF เป็นกองทุนรวม ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง กองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว โดยจะลงทุน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในตราสารทุนของบริษัทในสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง หรือมาเก๊า โดยลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมในผลิตภัณฑ์และบริการด้านนวัตกรรม ซึ่งเป็นกุญแจสําคัญสำหรับเศรษฐกิจจีน ที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน

อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำ และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม มีการบริหารการลงทุนและคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเชิง Valuation และเชิงคุณภาพอื่น ๆ นำโดย  Phil S. Lee (ผู้จัดการกองทุน) ที่มีผลงานโดดเด่นได้รับการจัดอันดับ AAA โดย CITYWIRE และเป็นผู้บริหารกองทุน Asia Growth Equity ที่ได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว

2. T. Rowe Price China Evolution Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมภายใต้กลุ่มกองทุนของ T. Rowe Price Funds SICAV Class I ที่จดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศลักเซมเบิร์ก คัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตสูงต่อเนื่อง และหุ้นที่มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด

รวมถึงหุ้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ถูกมองข้าม กองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุน โดยกองทุนมีการบริหารจัดการแบบเชิงรุก และกระจายการลงทุนในหุ้นจีนประมาณ 40-80 ตัว ทั้งในหุ้น A-shares, H-shares และหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ คัดเลือกหุ้นที่ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (mispricing) ที่มีเอกลักษณ์ และศักยภาพโดดเด่น

มีกระบวนการลงทุนออกแบบมาเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุด โดยไม่อิงกับดัชนี สไตล์การลงทุน หรือหมวดธุรกิจ บริหารกองทุนนำ โดย Wenli Zheng กองทุนมีผลงานโดดเด่น มีอัตราผลตอบแทน (31 ธันวาคม 2562-30 มิถุนายน 2564) เฉลี่ยเท่ากับ 50.8% ต่อปี สูงกว่าดัชนีอ้างอิงถึง 27% ต่อปี

MCHEVO กองทุนนี้เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน และผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป

โดยเป็นกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ ประเภท Fund of Funds เงินทุนโครงการ 3,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ความเสี่ยงของกองทุนระดับ 6 สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ซื้อขายได้ทุกวันทำการ และจะเริ่มเปิดซื้อขายระหว่างวันที่ 2-10 ส.ค. 2564