คลัง พบร้านค้าโกง รับแลกเงิน “คนละครึ่ง” สั่งระงับจ่าย 35 ล้านบาท

คนละครึ่ง

คลัง ระงับการจ่ายเงิน 35 ล้านบาท ร้านค้าโกง “คนละครึ่ง” 1 พันราย พร้อมตัดสิทธิแอป “ถุงเงิน” ชั่วคราว ชี้พบรับแลกวงเงินกว่า 847 ราย เล็งเอาผิดตามกฎหมาย

วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ระงับสิทธิร้านค้าที่เข้าข่ายการทุจริตโครงการคนละครึ่ง แล้วดำเนินการส่งข้อมูลดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว 1,023 ราย แบ่งเป็น ร้านค้า 176 ราย และอีก 847 ราย เป็นบุคคลที่ทำความผิดเกี่ยวกับการแลกเงิน (เจ้ามือ) 

โดยร้านค้ากลุ่มนี้จะถูกระงับสิทธิแอปพลิเคชั่นถุงเงินชั่วคราว จนกว่าจะดำเนินการตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ ร้านค้ากลุ่มดังกล่าวจะไม่ได้รับเงินที่ได้จากการขายผ่านโครงการด้วย โดยในส่วนที่ระงับการจ่ายเงินให้ร้านค้าดังกล่าวนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ  35 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หากในภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้กระทำความผิด กระทรวงการคลังก็จะคืนเงินให้กับร้านค้า  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกรณีที่ตรวจสอบแล้วว่าร้านค้ากระทำผิดจริง กระทรวงการคลังก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย รวมทั้งระงับสิทธิถุงเงิน และการเข้าร่วมโครงการของรัฐด้วย

“จึงขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ครม. ได้อนุมัติให้ สศค. ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการคนละครึ่ง และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ให้แก่ร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิ จำนวน 296 ราย วงเงินที่ระงับการจ่าย จำนวน 972,516 บาท จนกว่าการตรวจจะแล้วเสร็จ เพื่อให้ครอบคลุมการจ่ายเงินให้ร้านค้าในกลุ่มดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน ซึ่งไม่เกินวันที่ 28 ก.พ.65 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ