หุ้นไทยแกว่งกรอบเดิม 1,530-1,545 จุด โควิดทั่วโลกรุนแรง-GDP สหรัฐต่ำกว่าคาด

หุ้น-728x446

ตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบในกรอบเดิมระหว่าง 1,530-1,545 จุด หลังตัวเลข GDP สหรัฐไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ตลาด-โควิดรุนแรงทั่วโลกกดดันฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก วันนี้จับตาประชุม ศบค.หากยกระดับคุมเข้มขยายพื้นที่ Lockdown เป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของประเทศเป็นระยะเวลา 2 เดือน SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับใหญ่ที่บริเวณ 1,500 จุด ภาพรวมตลาดมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง และเวียนกลุ่มเล่นรายวันไม่มี Sector ใดเด่นชัด

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET Index เช้านี้มีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้างในกรอบเดิมระหว่าง 1,530-1,545 จุด หลังวานนี้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/64 ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อีกทั้งสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ยังรุนแรงต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลัง

ส่วนวันนี้ติดตามการประชุมของ ศบค. ว่าจะมีการยกระดับมาตรการคุมเข้มถึงขั้น Lockdown 1 ใน 4 ของประเทศเป็นเวลา 2 เดือน ตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ หากบังคับใช้ SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับใหญ่ที่บริเวณ 1,500 จุด เพราะจะกระทบต่อกิจการ กิจกรรมจำนวนมาก รวมถึงมาตรการร้านอาหารในห้างว่าจะให้กลับมาเปิดและทำ Delivery เหมือนเดิมหรือไม่ แต่ยังคงห้ามรับประทานที่ร้านเช่นเดิม

แต่ทั้งนี้คาดว่าวันนี้ ศบค.น่าจะขยายมาตรการ Lockdown ออกไปอีกอย่างน้อย 14 วัน

โดยทางฝ่ายวิจัยยังคงกลยุทธ์ “Selective Play” ในหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจาก COVID-19 อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มบรรจุภัณฑ์, กลุ่มสื่อสาร เป็นต้น และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวมตลาดมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง และเวียนกลุ่มเล่นรายวันไม่มี Sector ใดเด่นชัด

สำหรับวานนี้สหรัฐประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/64 ออกมาขยายตัว 6.5% น้อยกว่าตลาดคาดการณ์การขยายตัวที่ 8.5% สะท้อนภาพการเริ่มชะลอตัวลงของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หลังตอบรับการเปิดเมืองไปมากแล้ว อีกทั้งวานนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมาถึง 4 แสนรายสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 3.8 แสนราย ทำให้ Dollar Index อ่อนตัวลง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกบวกสวนเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลในประเด็นการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และลดวงเงินการซื้อพันธบัตรผ่านมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เพราะคาดว่าตัวเลขการจ้างงานในสัปดาห์หน้าจะยังคงห่างไกลจากเป้าหมายของ Fed

ส่วนคืนนี้ติดตามการประกาศตัวเลข Core PCE Price Index ในเดือน มิ.ย. 64 ซึ่งจะสะท้อนถึงเงินเฟ้อของสหรัฐที่คาดจะออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน