ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ดันบริษัทลูก “บริทาเนีย” (BRI) ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ลุยขายไอพีโอไม่เกิน 13.47 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท นำเงิน “ขยายธุรกิจ-ชำระเงินกู้ยืม-ทุนหมุนเวียนในกิจการ”
วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทได้การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงการนำหุ้นของบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
โดยภายใต้แผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) นี้ BRI จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนประเภทอื่น ๆ รวมทั้งเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งมีหุ้นที่จัดสรรไว้รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของ BRI และบริษัทย่อยของ BRI (ESOP Warrant) รวมทั้งหมดคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 30 ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ BRI ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการใช้สิทธิ ESOP Warrant (ภายใต้สมมติฐานว่ามีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและการใช้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งจำนวน)
ในการนี้ภายใต้แผนการ Spin-Off BRI มีแผนการในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนประเภทอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทเฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Offering) และการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของ BRI และ/หรือ บริษัทย่อยของ BRI ซึ่งในรายละเอียดจะได้มีการกำหนดต่อไป
นอกจากนี้จะมีการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบางส่วนให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท และ/หรือ บริษัทย่อยของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 13,470,000 หุ้น มูลค่าหุ้น ที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้และบริษัทฯ จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน BRI ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 70% ของทุนชำระแล้วของ BRI ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการใช้สิทธิ ESOP Warrant (ภายใต้สมมติฐานว่ามีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและการใช้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งจำนวน) โดย BRI จะยังคงมีสถานะเป็น บริษัทย่อยของบริษัทเช่นเดิมต่อไป
ในเบื้องต้น BRI มีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ดังนี้
(1) เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการและการขยายธุรกิจ
(2) เพื่อชำระเงินกู้ยืม และ
(3) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ BRI ให้ทราบต่อไป
ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลในรายละเอียดจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มของ BRI ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ที่ website ของสำนักงาน ก.ล.ต. (www.sec.or.th)