สรรพสามิต ยันภาษีบุหรี่ใหม่ทันใช้ ต.ค.นี้ ชี้ ต้องเก็บรายได้ถึง 6 หมื่นล้าน

กรมสรรพสามิต ชงรมว.คลัง สรุปปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ยันทันใช้ต.ค.นี้แน่นอน เน้นตอบโจทย์ 4 เรื่องหลัก ต้องเก็บรายได้ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท

วันที่ 8 สิงหาคม 2564 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมได้ปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ต.ค.64 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากมาตรการเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบเป็น 40% จากเดิมเก็บ 20% นั้น จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.64 ซึ่งจะทันการบังคับใช้ภาษีบุหรี่ใหม่ทันที 

ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ความคืบหน้าขั้นตอนการปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่นั้น ขณะนี้กรมได้เสนอแนวทางปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาแล้ว ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจาก รมว.คลังแล้ว ก็จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติทันที มั่นใจว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันโครงสร้างภาษีเดิมที่จะสิ้นสุดในปีงบประมาณ 2564 

สำหรับการแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ พิจารณาภายได้แนวทางไม่กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรม ซึ่งที่ผ่านมากรมมีรายได้จากการเก็บภาษีบุหรี่เฉลี่ยปีละ 6 หมื่นล้านบาท ฉะนั้น หากมีการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่รอบใหม่ก็จะต้องทำให้สอดคล้องกับการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่ผ่านมาด้วย นอกจากนี้ กรมจะต้องทำให้ตอบโจทย์ใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่  1. การดูแลเกษตรกร 2. สุขภาพของประชาชน 3. ปราบปรามบุหรี่เถื่อน และ 4. การจัดเก็บรายได้ของกรม ซึ่งจะไม่มีข้อใดมากหรือน้อยกว่า จะพยายามทำให้เหมาะสมและสมดุลมากที่สุด