ศุลกากร ชี้ส่งออกโตหนุนเก็บรายได้พุ่ง! คาดปีงบ’64 ตามเป้า 9.3 หมื่นล้านบาท

ศุลกากร ชี้กรมมีแนวโน้มเก็บภาษีดีขึ้น เดือนมิ..รายได้เกินเป้า 188 ล้านบาท รับอานิสงค์ส่งออกขยายตัวพุ่ง 15% สูงสุดในรอบ 11 ปี คาดทั้งปีงบ’64 รีดรายได้ตามเป้า 9.3 หมื่นล้านบาท

วันที่ 8 ส.ค.64 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ยอดการจัดเก็บรายได้ภาษีศุลกากรมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเดือนมิ..64 จัดเก็บรายได้ 8,988 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 188 ล้านบาท และยังสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อเทียบกับเดือนมิ..ของปีที่ผ่านมา โดยเดือนมิ..60 เก็บได้ 8,748 ล้านบาท เดือนมิ..61 เก็บได้ 8,686 ล้านบาท เดือนมิ..62 เก็บได้ 8,187 ล้านบาท และเดือนมิ..63 เก็บได้ 7,062 ล้านบาท โดยการเก็บภาษีที่สูงขึ้นมาจากการส่งออกรถยนต์ที่ขยายตัวมาก เช่นเดียวกับสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดดิส ส่วนสินค้านำเข้าเป็นรถยนต์ และสินค้าทุนวัตถุดิบสำหรับใช้ในภาคการผลิต

ส่วนยอดจัดเก็บภาษีศุลกากรรอบ 9 เดือนปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่เดือนต..63 –มิ..64  สามารถเก็บรายได้แล้วกว่า 76,416 ล้านบาท สูงขึ้น 7% จากปีที่แล้ว 4,970 ล้านบาท และต่ำกว่าประมาณการเอกสารงบประมาณเพียงเล็กน้อย 2% หรือ 1,684 ล้านบาท แต่คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณนี้ กรมศุลฯ จะเก็บรายได้ตามเป้าหมายที่ปรับปรุงใหม่เกิน 93,000 ล้านบาทแน่นอน เนื่องจากแนวโน้มการเก็บรายได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนม..64

นายพชรกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กรมฯ จัดเก็บรายได้ดีขึ้น มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก ทำให้ภาคการส่งออกและนำเข้าของไทยกลับมาขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกช่วงครึ่งปีขยายตัวแล้วกว่า 15%  และยังทำสถิติสูงสุดรอบ 11 ปี นอกจากนี้ กรมศุลฯ ยังนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวก นำเข้าส่งออกสินค้า เช่น การตรวจปล่อย การเอ็กซเรย์ รวมถึงเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบเนชันแนล ซิงเกิล วินโดว์กับ 37 หน่วยงาน ซึ่งช่วยประหยัดเวลา  ลดภาระผู้ประกอบการในการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ลดการใช้เอกสารกระดาษทั้งแบบฟอร์มคำขอต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าส่งออกได้กว่า 1 แสนราย

ทั้งนี้ กรมฯยังมีนโยบายเร่งรัดปราบปราม การลักลอบสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี โดยร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนการลักลอบนำสินค้าเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ซึ่งยอดในเดือนมิ..64 สามารถจับกุมได้ 1,396 คดี คิดเป็นมูลค่า 80.58 ล้านบาท อาทิ  ยาเสพติด 18 คดี มูลค่า 39.87 ล้านบาท รวมถึงเฮโรอีน น้ำหนัก 314 กก.มูลค่า 943 ล้านบาท การจับกุมน้ำมันเชื้อเพลิง การลักลอบสินค้าเกษตร  บุหรี่ 34 คดี มูลค่า 3.6 ล้านบาท  บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า 13 คดี  592,446 บาท เป็นต้น