ไทยพาณิชย์ ชี้ จีนออกกฎเข้มคุม Internet platform หวั่นกระทบตลาดหุ้นจีน 

SCB CIO เผยตลาดหุ้นจีนถูกกดดันจากความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์-การตรวจสอบบริษัทจากทางการจีน 3 ประเด็นหลัก คุมกลุ่มธุรกิจ Internet และ Non-Interne กระทบต่อนัยการลงทุนในตลาดหุ้นจีน แนะนำลงทุนระยะยาว 1 ปี แทนการถือระยะสั้น-ไม่ซื้อ/ไม่ขาย 

วันที่ 10 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า SCB  Chief Investment Office  (SCB  CIO) มองว่า การออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นบนกลุ่มธุรกิจ Internet และ Non-Interne ของทางการจีน ในช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา เริ่มทวีความรุนแรงและครอบคลุมหลายบริษัทมากขึ้น โดยประเมินว่าทิศทางการออกกฎระเบียบและการคุมเข้มบริษัทจากทางการจีนในอนาคต โดยเฉพาะบนกลุ่มบริษัท platform ขนาดใหญ่ ยังมีแนวโน้มที่จะเข้มงวดต่อเนื่องอย่างน้อยในช่วงที่เหลือของปีนี้

ภาพรวมของการคุมเข้มบริษัทของทางการจีน อยู่ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การเพิ่มเสถียรภาพและลดความเสี่ยงในภาคการเงินโดยเฉพาะกลุ่ม fintech  (Financial de-risking มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก) 2) การตรวจสอบการผูกขาดทางธุรกิจ (Anti-trust investigation มีความคืบหน้าปานกลาง) และ 3) การปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลและผู้บริโภค (Data Security & Consumer Protection อยู่ในช่วงเริ่มต้น) 

นอกจากนี้ ยังมีการออกกฎระเบียบด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นการลดภาระทางการเงินของครัวเรือน ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านอสังหาริมทรัพย์ และ ด้านอื่นๆ เช่น การออกแนวทางและกฎระเบียบกับกลุ่ม Internet platform ที่มีโมเดลธุรกิจเกี่ยวกับ food delivery, on-demand delivery และบริการเรียกรถ ทั้งนี้ SCB CIO ประเมินว่า กลุ่มที่อาจเผชิญแรงกดดันประเด็นการลดภาระทางการเงินของครัวเรือนในระยะถัดไป คือ กลุ่ม online gaming ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ online digital entertainment ขณะที่ ยังมีโอกาสค่อนข้างต่ำที่ทางการจีนจะห้ามระดมทุนผ่าน VIE (Variable Interest Enterprise) กับกลุ่มอื่นๆ 

ทั้งนี้ SCB CIO  มองว่า มีโอกาสค่อนข้างต่ำที่ดัชนี MSCI China จะปรับฐานลงอย่างมากต่อจากระดับปัจจุบัน แม้ดัชนี MSCI China ปรับฐานราว -13.5% ขณะที่ CSI300 -7.8% นับตั้งแต่ทางการจีนได้ออกมาตรการคุมเข้มกับธุรกิจกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา แต่ความเสี่ยงเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น (Regulatory risk) กับกลุ่ม internet platform โดยเฉพาะหุ้นจีนฝั่ง Offshore ยังคงมีอยู่ จะส่งผลให้ดัชนี MSCI China ซึ่งมีสัดส่วนของกลุ่ม internet platform ค่อนข้างสูง ยังมีแนวโน้มผันผวนสูง และ underperform ดัชนีหุ้นจีนฝั่ง Onshore ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนฝั่ง Onshore ยังมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ( RRR ) และอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินเพิ่มเติม ในช่วงที่เหลือของปี และ หุ้นกลุ่มที่สอดรับกับมาตรการสนับสนุนของทางการจีน เช่น Green Energy, EV, Tech Hardware และ Semiconductor จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี

อย่างไรก็ตาม  แม้ว่า Valuation ของหุ้นกลุ่ม internet platform ของจีนจะมีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่ม internet platform ของสหรัฐฯ แต่ความเสี่ยงในการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดจากทางการจีน โดยเฉพาะนัยต่อหุ้นจีนฝั่ง Offshore ที่ยังมีแนวโน้มดำเนินต่อเนื่อง จะสามารถกดดันให้ Valuation ของกลุ่มฯ ยังปรับลดลงได้อีก

ด้านการลงทุน  ยังคงแนะนำ Neutral สำหรับการลงทุนในหุ้นจีน สถานการณ์การลงทุนหุ้นจีนในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว (ถือครอง 1 ปี ขึ้นไป) เท่านั้น และไม่เหมาะสำหรับกรอบการลงทุนระยะสั้น โดยแนะนำ “ถือ” (ไม่ซื้อ ไม่ขาย) โดยเฉพาะกรอบการลงทุนระยะสั้น (น้อยกว่า 1 ปี) หากมีการลงทุนอยู่แล้วยังสามารถถือลงทุนต่อไปได้   แต่หากยังไม่มีสถานะการลงทุนและเป็นกรอบการลงทุนระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) สามารถทยอยสะสมสำหรับหุ้นจีน A-shares เท่านั้น เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์และการตรวจสอบของทางการจีนที่น้อยกว่าหุ้นจีน H-Shares / ADR