โบรกชี้ไตรมาส 3 บจ.กำไรต่ำ โค้งท้ายฝืดแห่ปรับเป้าปี’60

ตลท.ลั่นกำไร บจ.ไตรมาส 3 “ไม่แย่” สวนทิศนักวิเคราะห์ฟันธง บจ.โชว์ฟอร์ม “ไม่สดใส” กดตลาดหุ้นไทย ฝั่งต่างชาติยังเทขาย เล็งปรับเป้าบจ.กำไรปีนี้ลดลง “เคทีบี” ชี้ Q3 บจ.ปิดกำไรรวม 2.06 แสนล้านบาท กลุ่ม “แบงก์-พลังงาน-ปิโตร” ฉุด เผยไตรมาส 4 ยังเหนื่อย คาดกำไรทั้งปีไปไม่ถึงเป้า 9.9 แสนล้านบาท

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 3/2560 พบว่ากำไรโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่อาจจะบวกหรือลบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2560 ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 2.16 แสนล้านบาท

“มองว่าไตรมาส 3 นี้ กำไรรวมไม่แย่ไปกว่างวดไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าสินทรัพย์ในตลาดทุนยังน่าลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะเริ่มเดินทางโรดโชว์วันที่ 19 พ.ย.นี้ ที่สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เพื่อให้ข้อมูลนักลงทุน” นายสันติกล่าว

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลรวบรวมจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) จำนวน 540 บริษัทที่รายงานผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2560 (คิดเป็นสัดส่วน 99% ของทั้งตลาด) พบว่ามีกำไรสุทธิโดยรวม 2.06 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงราว 0.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ บล.เคทีบีคาดการณ์ว่ากำไร บจ.ในตลาด SET งวดไตรมาส 3/2560 อยู่ที่ 2.23 แสนล้านบาท ลดลง 4.20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งประเด็นสำคัญมาจากปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ที่ยังอยู่ระดับสูง และกรณี บมจ.ปตท.สผ.ขาดทุนกว่า 8 พันล้านบาท ผลจากการรับรู้ขาดทุนด้อยค่าของสินทรัพย์ของโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์

“กลุ่มแบงก์ ปิโตรเคมี และพลังงานถือเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ คิดเป็น 55% ของมาร์เก็ตแคปในตลาด ดังนั้นเมื่อ 2-3 กลุ่มใหญ่นี้มีผลประกอบการออกมาไม่ดี ก็จะฉุดให้ภาพรวมทั้งตลาดได้ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/2560 ประเมินว่าโอกาสที่จะทำให้กำไรรวมของ บจ.เติบโตเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายภาพรวมทั้งปีที่คาดไว้ 9.56 แสนล้านบาทนั้น คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะเท่ากับว่าไตรมาส 4 นี้ บจ.จะต้องมีกำไรรวม 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำกำไรให้สูงได้จะต้องมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ต้องปรับตัวสูงต่อเนื่อง และผลดำเนินงานของแบงก์จะต้องมีกำไรสูงมากด้วย ดังนั้นขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไร บจ.รวมของปีนี้” นายมงคลกล่าว

นายมงคลกล่าวต่อว่า จากแนวโน้มผลประกอบการงวด 3/2560 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ส่วนหนึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ตลาดหุ้นช่วงนี้ปรับตัวลดลง นอกเหนือจากแรงกดดันต่างชาติเทขายต่อเนื่อง และนักลงทุนจับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียนจำนวน 587 บริษัท ได้รายงานผลดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2560 ออกมามีทิศทางไม่สดใส โดยมีกำไรสุทธิรวม 2.07 แสนล้านบาท ลดลง 3.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 2.14 แสนล้านบาท

นอกจากนี้กำไรในงวดดังกล่าวยังปรับตัวลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2560 ที่มีกำไร 2.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของ บจ.ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ราว 6.95 แสนล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 7.01 แสนล้านบาท แต่เนื่องจากกำไรงวด 9 เดือนปีนี้คิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2560 ที่ บล.เคทีบีประเมินไว้ 9.9 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรรวมในปีนี้ของ บจ.

“สำหรับไตรมาส 3 นี้ พบว่ากลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว ปิโตรเคมี สื่อสาร และเกษตรยังมีกำไรเติบโตได้ดี ขณะที่กลุ่มประกัน ไฟแนนซ์ เหมืองแร่ และขนส่งเป็นกลุ่มที่มีกำไรลดลง ส่วนกลุ่มที่ขาดทุนสุทธิมีกลุ่มเดียวคือกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ คาดมีผลขาดทุนรวม 1.09 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 281.15 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มงวดไตรมาส 4/2560 ประเมินว่า กลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่มที่มีผลดำเนินงานสดใส” นายเทิดศักดิ์กล่าว