หุ้นกู้ “TIDLOR-SGF” ยอดจองล้นสวนวิกฤตโควิด

tidlor

2 บริษัทจดทะเบียน “เงินติดล้อ-เอสจีเอฟ” ยอดจองหุ้นกู้ล้นสวนวิกฤตโควิด-19 ฟาก “TIDLOR” นักลงทุนแห่จองมากกว่า 4.2 เท่า ความต้องการทะลุ 21,000 ล้านบาท ด้าน “SGF” สถาบัน-รายใหญ่ จองเพียบ ลุยนำเงินชำระคืนหนี้

วันที่ 19 สิงหาคม 2564 นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLORเปิดเผยว่า หุ้นกู้บริษัทได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินความคาด ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท รวมหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยมีนักลงทุนแสดงความจำนงเข้าลงทุน (Bookbuilding) ในหุ้นกู้ของบริษัทมากกว่า 4.2 เท่า เมื่อเทียบกับแผนการเสนอขาย หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท

ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนมาก ที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน สำหรับรายละเอียดของหุ้นกู้ที่เสนอขายดังกล่าว มีกำหนดไถ่ถอนภายใน 2 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ย 1 ปี 0.97% และอัตราดอกเบี้ย 2 ปีที่ 1.17% โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้จากทริสเรทติ้ง ในระดับ ‘A’ แนวโน้ม ‘Stable’ หรือ ‘คงที่

“จากผลการตอบรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและหนึ่งในผู้นำธุรกิจนายหน้าประกัน ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจและยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินแก่ผู้คนในสังคมอย่างเท่าเทียม ซึ่งทำให้เงินติดล้อแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ และเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้สามารถขยายกิจการได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้” นายปิยะศักดิ์ กล่าว

นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ บริษัท เอสจีเอฟ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGF ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่ครบวงจรเจ้าหนึ่งในอุตสาหกรรม ให้บริการเช่าซื้อสินเชื่อรายย่อย, สินเชื่อจำนำทะเบียน, สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อเงินให้กู้ยืม ซึ่งประสบความสำเร็จเกินเป้าที่ตั้งไว้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ประเทศยังคงประสบปัญหาการระบาดโควิด-19 อยู่ก็ตาม

“โดยเป็นหุ้นกู้มีประกันของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2564 มีครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566  อายุ 1 ปี 11 เดือน รวมมูลค่า 400 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6.35% ต่อปี เปิดให้จองซื้อเมื่อวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดจองซื้อเข้ามาจนล้นจำนวนที่เสนอขาย โดยทาง SGF จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้ ที่จะครบกำหนดและในส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจสินเชื่อ” นายสุรศักดิ์ กล่าว