ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยงานสัมมนา “Thailand Focus 2021” บจ.102 บริษัท-นักลงทุนสถาบันไทยต่างประเทศกว่า 192 ราย แห่เข้าร่วม สูงกว่าปีก่อน ชาติหน้าใหม่เพียบ สะท้อนตลาดทุนไทยยังเป็นเป้าหมายลงทุนในสายตาต่างชาติ “ภากร” ชี้ 2 เรื่องมีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน
วันที่ 25 สิงหาคม 2564 นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การจัดงานสัมมนา “Thailand Focus 2021: Thriving in the Next Normal” ในปีนี้ทั้งสิ้น 3 วัน (25-27 ส.ค.64) มีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมกว่า 102 บริษัท และมีนักลงสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศลงทะเบียนเข้ารับฟังข้อมูลที่ภาครัฐและภาคเอกชนมานำเสนอกลยุทธ์การรับมือและการปรับตัวของธุรกิจไทย และความพร้อมรองรับการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต กว่า 192 ราย จาก 110 สถาบันทั่วโลก ซึ่งปีนี้ค่อนข้างได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศสูงกว่าปีที่แล้ว สะท้อนว่าตลาดทุนไทยยังเป็นเป้าหมายการลงทุนในสายตาผู้ลงทุนต่างประเทศ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
ทั้งนี้หลัก ๆ เป็นนักลงทุนจากกลุ่มประเทศสิงคโปร์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงปีนี้การจัดงานครั้งนี้เป็นแบบ virtual conference ซึ่งเปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้ปีนี้มีประเทศใหม่ ๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งสะท้อนถึงการที่ไทยอยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนสถาบัน
“ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยช่วงครึ่งแรกปี’64 จะเห็นสัญญาณฟื้นตัวค่อนข้างมีผลชัดเจน จะมาชะลอตัวลงบ้างช่วงท้ายไตรมาส 2 จากการระบาดโควิดระลอก 3” นายแมนพงศ์กล่าว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวต่อว่า การจัดงานสัมมนา “Thailand Focus 2021” เป็นการเปิดโอกาสที่จะได้ให้ข้อมูลอัพเด9แต่ละบริษัทจดทะเบียนกับนักลงทุนโดยตรง และยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนยังได้ฟังนโยบายของภาครัฐในปัจจุบันและอนาคตว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางอย่างไร ซึ่ง 2 เรื่องนี้มีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจของการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลกและนักลงทุนในประเทศไทย
“ผมเชื่อว่าการช่วยอัพเด9ข้อมูลจะมีส่วนทำให้นโยบายการลงทุนของนักลงทุนเป็นไปได้อย่างถูกต้อง ส่วนสถานการณ์เม็ดเงินลงทุนจะเข้ามามากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นอย่างไร และเมื่อดูแล้วประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งจะเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะใส่เงินทุนเข้าหรืออกจากประเทศไทย” นายภากรกล่าว
