คลังชี้เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. ชะลอลง “การบริโภค-ลงทุน” ทรุด!

นักท่องเที่ยว
FILE PHOTO : Mladen ANTONOV / AFP

คลังรายงานเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. 64 ส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า การใช้จ่ายภาคเอกชนลดลง-การลงทุนชะลอตัว หลังโดนโควิดกระทบ ชี้ส่งออกประคองเศรษฐกิจ ขยายตัว 5 เดือนซ้อน ด้านการท่องเที่ยว ต่างชาติเข้าไทยสูงสุดในรอบ 16 เดือน รับอานิสงส์ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”

วันที่ 30 สิงหาคม 2564 นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกรกฎาคม 2564 ส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง อันเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

ดัชนีความชื่อมั่นผู้บริโภค เหลือ 40.9 หลังกังวลโควิด ฉุดการจับจ่ายลดลง

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนกรกฎาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -9.8 และ -17.7 ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -13.3 และ -16.0 ตามลำดับ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 40.9 จากระดับ 43.1 ในเดือนมิถุนายน 2564 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 22.9 และ 6.2 ต่อปี ตามลำดับ

การลงทุนชะลอตัว ยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ -12% ต่อปี

ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนกรกฎาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -12.4 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -14.3

สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -12.0 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -10.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว สอดคล้องกับภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงที่ร้อยละ -11.6 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -10.3 อย่างไรก็ดี ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 32.6 ต่อปี

ส่งออกประครองเศรษฐกิจ ขยายตัว 20.3% ต่อปี 5 เดือนซ้อน

ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 22,650.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ร้อยละ 20.3 ต่อปี และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่าขยายตัวร้อยละ 25.4 ต่อปี

โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าเกษตรและอาหารขยายตัวร้อยละ 46.4 และ 22.0 ต่อปี โดยเฉพาะ ยางพารา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่ขยายตัวร้อยละ 121.2 80.2 และ 62.0 ต่อปี ตามลำดับ และ 2) สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง อาทิ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า

ทั้งนี้ จำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย จีน และสหรัฐฯ ขยายตัวที่ร้อยละ 75.3 41.0 และ 22.3 ต่อปี ตามลำดับ

ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ หนุนนักท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุดรอบ 16 เดือน

ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ส่งสัญญาณขยายตัวจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินเข้าประเทศไทยสูงสุดในรอบ 16 เดือน โดยภาคเกษตรยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนกรกฎาคม 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 ต่อปี และขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.9 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือก ยางพารา มันสำปะหลัง และหมวดไม้ผล

ในขณะที่บริการด้านการท่องเที่ยว พบว่าในเดือนกรกฎาคม 2564 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) นักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจเดินทางเข้าประเทศไทย จำนวน 18,056 คน สูงสุดในรอบ 16 เดือน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐ สหราชอาณาจักร อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” จำนวน 14,055 คน

สำหรับการท่องเที่ยวของชาวไทย จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 869,248 คน ลดลงที่ร้อยละ -91.3 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลาย สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในเดือนกรกฎาคม 2564 ยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.9 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 78.9 จากระดับ 80.7 ในเดือนมิถุนายน 2564

“ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีการระบาดในคลัสเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง”

เสถียรภาพเศรษฐกิจดี ทุนสำรองระหว่างประเทศ สิ้น ก.ค. อยู่ที่ 248 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 0.45 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 1.25 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.14 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.2 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 248 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ