โฮมโปร ประกาศจ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น XD 15 ก.ย. 64

โฮมโปร
แฟ้มภาพ

โฮมโปร ประกาศจ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น จากกำไรงวด 6 เดือนปีนี้ หลังมีกำไรสุทธิ 2,795.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แจ้งวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 15 ก.ย. 64

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2564 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.12 บาทต่อหุ้น จากอัตรากำไรงวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค.-30 มิ.ย. 2564 โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) คือวันที่ 16 ก.ย. 2564 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 15 ก.ย. 2564 และกำหนดวันจ่ายปันผลช่วงวันที่ 28 ก.ย. 2564

โดยกำไรงวด 6 เดือนแรกปีนี้ของ HMPRO อยู่ที่ 2,795.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.52% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักคือ 1.รายได้รวม จำนวน 32,786.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.37% ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 31,206.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.00% เป็นผลจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมาที่ได้ถูกปิดสาขาชั่วคราว ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2 บริษัทได้มีการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายต่าง ๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ทั้ง บนช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์จึงทำให้สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่ม ขณะที่ยอดขายโฮมโปรมาเลเซีย ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากคำสั่ง Lockdown ของรัฐบาลมาเลเซีย ในช่วงเดือนพฤกษาคม และเดือนมิถุนายน และใช้กลยุทธ์ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

รายได้ค่าเช่า จำนวน 626.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.42% เป็นผลจากจำนวนวันใน การเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2 บริษัทยังคงมีการปรับลดค่าเช่า ให้แก่ผู้เช่า ที่ยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19

รายได้อื่น จำนวน 953.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.41% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้น ของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าในสาขา

2.กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 7,938.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.98% และอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันจาก 24.77% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 25.44% เป็นผลจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนจัดซื้อสินค้าเช่นกัน

3.ต้นทุนค่าเช่า จำนวน 318.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.45% จากการที่บริษัทเปิดให้บริการพื้นที่เช่าในจำนวนวันที่มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่งผลให้ค่าสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมแซม ค่าใช้จ่ายการจัดจ้างงานจากภายนอก (Outsource) ของธุรกิจบริหารพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น

4.ค่าใช้จ่ายในการขาย จัดจำหน่าย และบริหารจำนวน 5,559.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.55% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับลดลงจาก 18.22% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 17.81% เป็นผลจากมูลค่ายอดขายในครึ่งปีแรกของปีนี้ที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้อัตราส่วนต่อยอดขายลดลงซึ่งเหตุผล หลักที่ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินเพิ่มขึ้นมาจากจำนวนวันเปิดทำการสาขาในช่วงครึ่งปีแรกที่มากกว่า

ส่งผลให้เกิด ค่าใช้จ่ายหลักเพิ่มตามจำนวนวันที่เปิดทำการเพิ่มขึ้นในปีปัจจุบัน เช่น ค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนและสวัสดิการ และค่าสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจในประเทศส่วนใหญ่ แม้ว่าค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและ บริหารในส่วนของโฮมโปรมาเลเซียจะลดลงจากการปิดสาขาชั่วคราวก็ตาม

5. รายได้ทางการเงิน จำนวน 4.62 ล้านบาท ลดลง 66.58% เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่ลดลง

6. ค่าใช้จ่ายทางการเงิน จำนวน 208.58 ล้านบาท ลดลง 13.47% จากการคืนกู้ยืมเงินระยะ สั้นในไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ได้มีการกู้มาเพื่อรักษาสภาพคล่องในช่วงมีคำสั่งปิดกิจการชั่วคราวในไตรมาส 2 ของปี 2563 และจากการออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง เพื่อชำระหนี้ที่ครบกำหนดในไตรมาส 4 ปี 2563 และไตรมาสที่ 1 ปี 2564

7.ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จำนวน 641.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.16% เป็นผลจากกำไรก่อนหักภาษีที่เพิ่มขึ้น