ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดจับตาผลการประชุม ECB วันนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. 64 ปรับลดลง ก่อนที่เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.70/72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวการณ์เคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/9) ที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (8/9) ที่ระดับ 32.76/78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่งในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือน ธ.ค. 2543 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.18 ล้านตำแหน่งในเดือน มิ.ย.
นอกจากนั้นนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ได้กล่าวว่าเฟดควรเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่เคยประกาศใช้เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 แม้ตัวเลขจ้างงานเดือน ส.ค.ชะลอตัวเองก็ตาม
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 76.8 ปรับตัวลดลงจากระดับ 78.9 ในเดือน ก.ค. 64 โดยปรับตัวลดลงต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน และเป็นการปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาคและทุกขนาดอุตสาหกรรม โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ คือ การที่ภาครัฐยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 29 จังหวัด
ขณะที่การแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมยังไม่คลี่คลายส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตลดลงและการส่งมอบสินค้าล่าช้าโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออก โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.69-32.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.70/72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (9/9) ที่ระดับ 1.1815/17 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ใกล้เคียงกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (8/9) ที่ระดับ 1.1817/20 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
โดยนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ BEC ในวันนี้ (9/9) ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ECB จะยังไม่ประกาศการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้ แต่คาดว่าจะมีการอภิปรายกันเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
โดยนายโรเบิร์ต ฮอลซ์แมนน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรียระบุว่า ECB อาจคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในยูโรโซนอาจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1811-1.1837 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1830/32 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/9) ที่ระดับ 110.17/20 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (8/9) ที่ระดับ 110.21/22 เยน/ดอลลาร์ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมขยายเวลาการใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 อีกครั้งในกรุงโตเกียวและพื้นที่อื่น ๆ ในวันนี้ เนื่องจากโรงพยาบาลยังคงแบกรับภาระหนัก แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง พร้อมกำหนดแนวทางผ่อนคลายข้อจำกัดเมื่อประชากรส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
โดยมาตรการฉุกเฉินฉบับปัจจุบันมีกำหนดสิ้นสุดในวันอาทิตย์นี้ (12 ก.ย.) แต่คาดว่ารัฐบาลจะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. สำหรับพื้นที่ 19 จังหวัด รวมถึงฮอกไกโด ไอจิ โอซาก้า และฟุกุโอกะ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.86-110.28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 119.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ก.ค.เยอรมนี (9/9), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (9/9)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.25/+0.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.25/+2.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
