กสิกรฯ จัดสารพัดโครงการพิเศษอุ้มเอสเอ็มอี-ร้านค้าย่อย

กสิกรไทยจัดสารพัดโครงการพิเศษช่วยธุรกิจเอสเอ็มอี-ร้านค้าย่อย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เน้นเสริมสภาพคล่อง-รักษาการจ้างงาน-แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า

วันที่ 10 กันยายน 2564 นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน ธนาคารให้ความช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีและร้านค้ารายย่อยไปแล้ว เป็นวงเงินกว่า 232,000 ล้านบาท ขณะที่ล่าสุดธนาคารได้ออกโครงการพิเศษเพิ่มอีก 2 โครงการ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของลูกค้า ได้แก่ 1) โครงการ “ร่วมด้วย ช่วยเปย์” บน K+ market โดยธนาคารรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้ารายย่อยและวิสาหกิจชุมชน รวมกว่า 300 ร้าน พร้อมเพิ่มโอกาสการขายบน K+ market นำมาจำหน่ายให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าในราคาพิเศษเพียง 20 บาทเท่านั้น สามารถชำระเงินได้ทั้งเงินสดในบัญชี K PLUS และใช้คะแนน K Point แลกซื้อแทนเงินสด

และ 2) โครงการ “ร่วมด้วย ช่วยแจกพ้อยท์” ให้คะแนนสะสม K Point 1,000 คะแนนฟรี ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่าเงินสด 100 บาท เพื่อให้ลูกค้านำไปแลกแทนเงินสด สำหรับจ่ายบิลสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ เติมเงิน หรือแลกซื้อของกินของใช้บน K+ market 

“ธนาคารตั้งใจช่วยเหลือสังคมและแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนที่ไม่ใช่แค่เฉพาะในช่วงวิกฤตนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงการฟื้นฟูธุรกิจและการใช้ชีวิตของลูกค้าภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพัชรกล่าว

ทั้งนี้ โครงการพิเศษต่าง ๆ ดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.ช่วยธุรกิจให้มีเงินทุนและรักษาการจ้างงาน มุ่งให้ธุรกิจมีเงินทุน เสริมสภาพคล่อง สามารถจ้างพนักงานต่อ และดูแลค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในส่วนอื่น ๆ ได้เอง โดยไม่ต้องหยุดหรือปิดกิจการ ได้แก่ โครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” โครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” และโครงการล่าสุด ช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กเข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ผ่านโครงการ “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย ดอกเบี้ยต่ำ 3% ไม่ต้องมีหลักประกัน พักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน ซึ่งได้รับความสนใจจากร้านค้าขนาดเล็กสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก สามารถช่วยลูกค้าได้กว่า 29,200 ราย วงเงินสินเชื่อ 4,800 ล้านบาท

2.ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ลูกค้ารายย่อย โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น และเพื่อให้เจ้าของร้านรายเล็ก ๆ สามารถขายของได้คล่องขึ้น ในขณะที่ลูกค้าทั่วไปได้ใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ ในราคาประหยัด เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบธุรกิจ ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย คือ โครงการ “ร่วมด้วย ช่วยเปย์” ร่วมกับฟู้ดดีลิเวอรี่ชั้นนำ ได้แก่ Grab และ LINE MAN และใน K+ market โดยธนาคารได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท ทั้งให้เงินสนับสนุนกับร้านค้ารายย่อยกว่า 20,000 ร้าน ร้านละ 3,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า

 3.ใช้ศักยภาพแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร K PLUS, K+ market รวมถึงช่องทางการสื่อสาร KBank Live เพื่อเพิ่มยอดขาย และพื้นที่การขายให้กับร้านค้าต่าง ๆ บน K+ market ใน K PLUS และ KBank Live ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อให้สามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้อย่างสะดวก โดยการจ่ายเงินผ่าน K PLUS หรือใช้คะแนนสะสม K Point แลกแทนเงินสดได้ เช่น โครงการ “รวมใจช้อปของไทย” เปิดช่องทางให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารที่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรแปรรูป ได้ระบายสินค้าผ่านช่องทาง THAILANDPOSTMART.com และแอปพลิเคชั่นช้อปปี้ โครงการ “รวมใจเที่ยวไทย” เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ K+ market บน K PLUS ให้ลูกค้าได้ซื้อดีลท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการโดยตรง ด้วยส่วนลดสูงสุด 80% ทั้งโรงแรม บริการนวดและสปา รถเช่า