อเบอร์ดีน เปิดตัวกองทุนหุ้นโลก 3 ชนิด เสนอขายผู้ลงทุนไทย

อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์  เปิดตัวกองทุน อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ หรือ ABGDD ชนิดหน่วยลงทุน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนไทยทั้งหมด 3 ชนิด เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Aberdeen Standard SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund (“กองทุนหลัก”)  ซึ่งลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นทั่วโลก 

วันที่ 14 กันยายน 2564 บริษัทอเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ (เอเอสไอ) ได้เปิดตัวกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ หรือ  กองทุนเปิด ABGDD  ชนิดหน่วยลงทุน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนไทย ทั้งหมด 3 ชนิด เพื่อตอบสนองความต้องการลงทุนที่แตกต่างกัน 

เริ่มจากหน่วยลงทุนชนิดสะสมมูลค่า (ABGDD-A) ซึ่งมุ่งหวังที่จะนำเงินปันผลไปลงทุนต่อเพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุนในระยะยาว  

ส่วนชนิดที่สอง หน่วยลงทุนชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (ABGDD-R) นั้น เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการแสวงหารายรับแบบสม่ำเสมอ 

ชนิดสุดท้าย คือ กองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ (ABGDD-SSF) ที่จะมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน พร้อมกับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุนในระยะยาว

โดยกองทุนเปิด ABGDD นี้มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน Aberdeen Standard SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund (“กองทุนหลัก”)  ซึ่งลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าทั่วโลก 

ซึ่งมีกองทุนหลักที่บริหารจัดการโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในหลักทรัพย์ทั่วโลกของ ASI มีนโยบายลงทุนในพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 80-100 ล้านหุ้นที่กระจายไปในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ และหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยมีกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นคัดสรรหุ้นรายตัวจากการพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน (Bottom-up) และคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทีมงานมืออาชีพด้านการลงทุน 120 คนใน 13 สำนักงานร่วมคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูงสุดทั่วโลกกว่า 2,000 บริษัท ด้วยข้อมูลเชิงลึกพร้อมความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดต่างๆ โดยมีบริษัทที่จะเข้าลงทุนถึง 1,100 บริษัทซึ่งส่วนใหญ่มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลตอบแทนที่ดี

นายเบ็น ชีฮานน์  ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการลงทุน  อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ กล่าวว่า สำหรับผู้ลงทุนไทยที่แสวงหารายรับแบบสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้มักมุ่งเน้นลงทุนในพันธบัตร การปรับพอร์ตลงทุนโดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผล จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์จากการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มศักยภาพที่จะยกระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในการลงทุน และโอกาสในการเพิ่มอัตราผลตอบแทนสำหรับพอร์ตการลงทุนของตนเอง 

ด้านนายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย  อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ กล่าวว่า ผู้ลงทุนไทยทุกวันนี้ต้องการรายรับจากการลงทุนในหุ้นมากกว่าเดิม เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ ด้วยอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรที่อยู่ในระดับต่ำมาก ทำให้การจัดพอร์ตการลงทุนแบบเดิมที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นร้อยละ 60 และพันธบัตรร้อยละ 40 ไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้อีกต่อไป กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ ของเราจึงได้มอบบริการที่แตกต่างอย่างเหนือระดับโดยผสมผสานโอกาสการสร้างรายรับ และการเติบโตของมูลค่าเงินทุนเข้าด้วยกัน ซึ่งมีเป้าหมายจะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยคว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนในภาวะตลาดขาขึ้น ขณะที่ยังได้รับดอกผลในรูปกระแสเงินสดในช่วงรอให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวเมื่ออยู่ในภาวะขาลง