นายกฯมอบ รมช.คลัง ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ หลังฝนตกต่อเนื่อง พร้อมนำสารและถุงยังชีพ ร่วมแก้ปัญหาน้ำเอ่อล้นท่วม กว่า 2,000 ครัวเรือน กำชับหน่วยงานท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือจัดทำแผนเร่งระบายน้ำ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบรูณ์ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมขัง ในหลายพื้นที่ของอำเภอ จากปริมาณฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 9-11 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เป็นผลทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นในพื้นที่วงกว้าง การสัญจรของประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก มีผลต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายสันติกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ครั้งนี้ โดยนำสารจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อส่งต่อขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในช่วงที่วิกฤตมามอบให้กับประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนและอาสาสมัครในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยการเสนอผ่านหน่วยงานระดับจังหวัด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่
ทั้งนี้ จากการได้รับรายงานสถานการณ์อุทุกภัยในพื้นที่อำเภอหล่มสัก พบว่ามีประชาชนกว่า 2,000 ครัวเรือน จาก 11 ตำบล 62 หมู่บ้าน รวมเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก 11 ชุมชน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยรวมได้เริ่มลดระดับ เนื่องจากทางจังหวัดได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้เร็วน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้มีแผนการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ