เปิด 5 โปรเจ็กต์ยักษ์เบิกจ่ายอืด “สคร.”กำชับรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนเต็มสูบ

สคร.กำชับบอร์ดรัฐวิสาหกิจติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯลงทุน เผย 5 เมกะโปรเจ็กต์เบิกจ่ายล่าช้าไป 1.2 หมื่นล้านบาท ระบุโครงการเบิกจ่ายช้าสุดเป็นของ ทอท. ขณะที่เป็นของการรถไฟฯถึง 3 โครงการ ส่วนอีกโครงการของการทางพิเศษฯ ยันภาพรวมยังมั่นใจเบิกจ่ายได้ตามเป้า พร้อมเตรียมมาตรการเข้มข้นบี้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2565

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2564 ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำได้ไม่น้อยกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายทั้งหมด 3.56 แสนล้านบาท โดยล่าสุดการเบิกจ่ายจนถึงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ยังสามารถทำได้ตามแผน ทำให้มั่นใจว่าถึงสิ้นปีงบประมาณนี้ (30 ก.ย. 2564) รัฐวิสาหกิจจะสามารถเบิกจ่ายงบฯลงทุนได้ตามเป้า แม้ว่าในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างก็ตาม แต่ถือว่าไม่ได้กระทบมาก

อย่างไรก็ตาม มีโครงการขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน และต้องเร่งรัดอย่างเต็มที่ ซึ่งจากตัวเลขการเบิกจ่ายจนถึงเดือน ก.ค. พบว่ามี 5 โครงการขนาดใหญ่ คิดเป็นวงเงินที่เบิกจ่ายล่าช้ารวมกัน 12,319 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน 4,580 ล้านบาท คิดเป็น 28% ของการเบิกจ่ายต่อแผน

ขณะที่เป็นโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 3 โครงการ เบิกจ่ายล่าช้าไปรวมเป็นวงเงิน 6,951 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน 3,436 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของการเบิกจ่ายต่อแผน, โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร เบิกจ่ายล่าช้าไป 2,509 ล้านบาท คิดเป็น 66% ของการเบิกจ่ายต่อแผน และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน 1,006 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของการเบิกจ่ายต่อแผน

ส่วนอีกโครงการเป็นแผนก่อสร้างศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. (ระยะที่ 2) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน 778 ล้านบาทคิดเป็น 49% ของการเบิกจ่ายต่อแผน

“การเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นไปตามแผน เราก็ให้เขารายงานชี้แจงว่ามีอุปสรรคส่วนใดบ้าง แต่บางเรื่องก็เป็นเหตุสุดวิสัย โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในการประชุมร่วมกับบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เราก็ได้มีการกำชับว่าให้ติดตามเร่งรัด เพราะหากล่าช้า ก็ส่งผลกระทบทำให้งานของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ แล้วเสร็จล่าช้าไปด้วย ถ้าเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ก็จะต้องเปิดให้บริการล่าช้าออกไป จึงขอให้บอร์ดดูแล เพราะจะมีผลต่อเม็ดเงินที่จะลงในระบบเศรษฐกิจด้วย” นางปานทิพย์กล่าว

ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนเม็ดเงินการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้ลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากที่สุด ในปีงบประมาณ 2565 สคร.ได้กำหนดตัวชี้วัดใหม่ให้กับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะเข้มงวดขึ้น โดยนอกจากจะต้องดำเนินงานตามแผนแล้ว จะต้องเบิกจ่ายงบฯลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งหากระหว่างปีมีการปรับแผนเกิน 5% ของวงเงิน จะถูกหักคะแนนประเมิน

“สคร.ได้วางกรอบเตรียมความพร้อมสำหรับการเบิกจ่ายงบฯลงทุนในปีงบประมาณ 2565 เช่น ให้รัฐวิสาหกิจเตรียมขั้นตอนร่างขอบเขตงาน (TOR) รวมทั้งการเตรียมพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เริ่มปีงบประมาณใหม่แล้ว สามารถเร่งดำเนินโครงการต่าง ๆ ได้ทันที” ผู้อำนวยการ สคร.กล่าว