เงินบาทอ่อนค่าแตะ 33.60 บาท รับสัญญาณเฟดเตรียมจบ QE

FX-เงินบาท-ธนบัตร-ดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้เงินบาทอ่อนค่า รับสัญญาณเฟดเตรียมจบ QE กลางปีหน้า พร้อมรอจังหวะเหมาะสมสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย 

วันที่ 23 กันยายน 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดรอบล่าสุด (21-23 ก.ย.) ว่า เฟดสะท้อนสัญญาณเตรียมลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการ QE ในไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ตลาดประเมินโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในปี 2565 เพิ่มมากขึ้นตามภาพสะท้อนของ Dot Plot ล่าสุด แม้จะยังคงต้องรอประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 ในช่วงเวลานั้นอีกที

จากผลการประชุมเฟดดังกล่าว เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 ปีในช่วงเช้าของวันที่ 23 กันยายน 2564 ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในเวลาต่อมา 

ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลงดังกล่าว น่าจะสะท้อนข่าวการทำ QE tapering ของเฟดไปค่อนข้างมากพอสมควรแล้ว ซึ่งทำให้โอกาสการอ่อนค่าเพิ่มเติมของเงินบาทในระยะข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และข้อมูลตลาดแรงงานจะออกมาดีกว่าคาดหรือไม่ เพียงใด แต่ในทางตรงกันข้าม หากตัวเลขเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด เงินดอลลาร์ฯ ก็อาจจะย่อตัวลงมาได้เช่นกัน

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า จุดจับตาสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี 2564 จะอยู่ที่ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ 1) การปรับลดมาตรการ QE ของเฟด และ 2) สถานการณ์โควิด-19 และการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศ 

โดยหากประเมินภาพจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และไทยแล้ว สัญญาณการเตรียมถอนตัวออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนสิ้นปี 2564 เป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนให้เงินดอลลาร์ฯ มีทิศทางแข็งค่าขึ้น และทำให้เงินบาทมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่ากว่าระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ เป็นส่วนใหญ่ในช่วงที่เหลือของปี

ดังนั้นแล้ว หากพัฒนาการของเรื่องราวต่าง ๆ ทำให้เงินบาทโน้มอ่อนค่าชัดเจนขึ้น ผู้นำเข้าอาจต้องพิจารณาทยอยทำสัญญาฟอร์เวิร์ดเพื่อซื้อดอลลาร์ฯ ล่วงหน้าเพื่อบรรเทาผลกระทบบางส่วนต่อมาร์จิน เป็นต้น