ธ.ก.ส. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศจีน สาขากว่างซี และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาธุรกิจธนาคาร จัดหาเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมพัฒนาการให้บริการด้านธุรกิจต่างประเทศเงินสกุล RMB (หยวน) สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการภาคเกษตรไทย
วันที่ 29 กันยายน 2564 นายรัตนะชัย ดำเนินสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ธนาคารแห่งประเทศจีน สาขากว่างซี (Bank of China Guangxi Branch) และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (Bank of China (Thai) Public Limited (BOCT)) ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านธุรกิจต่างประเทศ (Strategic Cooperation Agreement) เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
อาทิ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การตลาด นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ การจัดการสินทรัพย์และความรับผิด การจัดการความเสี่ยง การแบ่งปันทรัพยากรข้อมูล การจัดหาเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงธุรกิจการเงินองค์กร ธุรกิจตลาดระหว่างธนาคาร ธุรกิจตัวแทนการชำระเงิน และธุรกิจการชำระดุลการค้าต่างประเทศและการบริหารการเงิน
นอกจากนี้ ยังเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือกับกลุ่มธนาคาร Bank of China ด้านการชำระดุลและบริการโอนเงินระหว่างประเทศสกุลเงิน RMB หรือหยวน อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย อีกทั้งมีการดำเนินการจับคู่ธุรกิจในและต่างประเทศ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่เข้าหาช่องทางการต่อยอดธุรกิจ และลูกค้าในประเทศที่มุ่งแสวงหาตลาดในต่างประเทศ
รวมทั้งเป็นการสร้างความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศแบบไตรภาคี โดยใช้ประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ การประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนว่าด้วยความร่วมมือและการพัฒนาทางการเงิน เสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคี ส่งเสริมนวัตกรรมธุรกิจสกุล RMB ระหว่างประเทศ และอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนทวิภาคี
“ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้และพัฒนาการให้บริการด้านธุรกิจต่างประเทศสกุล RMB ของ ธ.ก.ส. อีกทั้งเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกรรายย่อยด้วยกลไก Smart Farmer ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร (SMAEs) และสถาบันเกษตรกร และเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของลูกค้าต่อไป”