หุ้นไทยชะลอร้อนแรง เอฟเฟ็กต์หุ้นเทคสหรัฐดิ่ง “ราคาน้ำมันพุ่งประคองตลาด”

หุ้น
ภาพ Pixabay

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะชะลอความร้อนแรงลงก่อน เคลื่อนไหว 1,600-1,620 จุด แรงกดดันหลักจากบรรยากาศลงทุนเชิงลบต่างประเทศ หลังเกิดแรงขายทำกำไรหนักต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ท่ามกลางคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานศุกร์นี้มีแนวโน้มดีกว่าคาด อาจหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปี’65 ส่งผลบอนด์ยีลด์ 10 ปีกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังประชุม OPEC+ คงการปรับเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน ช่วยประคองหุ้นกลุ่มพลังงานต่อได้

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้จะชะลอความร้อนแรงลงก่อน แล้วเคลื่อนไหวออกข้างในกรอบระหว่าง 1,600-1,620 จุด แรงกดดันหลักจะมาจากบรรยากาศลงทุนเชิงลบของต่างประเทศ หลังเกิดแรงขายทำกำไรหนักต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ ท่ามกลางคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐศุกร์นี้มีแนวโน้มดีกว่าคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีโอกาสเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปี 2565 ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี (Bond Yield) กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง

แต่คาดว่าผลกระทบต่อ SET Index มีไม่มาก เนื่องจากได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปิดเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังที่ประชุม OPEC+ คงการปรับเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันหลังการคลายมาตรการคุมเข้มและเศรษฐกิจพลิกฟื้นจะสูงขึ้นก็ตาม ยังน่าจะช่วยประคองหุ้นกลุ่มหลักอย่างพลังงานต่อได้

นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนกลุ่มเปิดเมืองฟื้นตัวเด่นไตรมาส 4 กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว 1.หุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้าย 2.หุ้นกลุ่มซ่อมสร้างหลังน้ำท่วม 3.หุ้นรับเงินบาทอ่อนค่า และ 4.หุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 3/64 ออกมาดี

สำหรับสถานการณ์ COVID-19 แนวโน้มดีขึ้นมาก ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันของไทย ลดลงต่อเนื่องโดยเริ่มเห็นผู้ติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 10,000 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 รายต่อเนื่อง สะท้อนผลจากการฉีดวัคซีนทั่วประเทศที่กว่า 50.2% ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว ขณะที่พื้นที่ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงได้แก่ ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, ปทุมธานี และสมุทรสาคร สัดส่วนการฉีดวัคซีนโดสแรกใกล้ครบ 70% ซึ่งน่าจะทำให้การระบาดลดลงได้เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ

จากข้อมูลเฉลี่ยของการฉีดวัคซีนย้อนหลัง 7 วัน คาดว่าช่วงกลางเดือน ต.ค. 64 ไทยน่าจะฉีดวัคนได้ถึง 70 ล้านโดส ทันเป้าหมายการฉีดครบ 100 ล้านโดสในปีนี้ ซึ่งจะหนุนการเปิดเมืองในช่วงไตรมาส 4 และเปิด Travel Bubble กับประเทศเพื่อนบ้านในช่วงไตรมาส 1/65 ได้ตามแผน

แต่ความกดดันจะอยู่ที่น้ำท่วม ตั้งแต่ช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. 64 พยากรณ์อากาศของไทยเสี่ยงเผชิญฝนตกหนักและปริมาณน้ำสะสมจากมรสุมที่คาดว่ากำลังจะรุนแรงขึ้น อาจทำให้สถานการณ์น้ำท่วมของประเทศไทยคลี่คลายได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ถึงช่วงครึ่งเดือนหลังของ ต.ค. 64 อีกทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ซึ่งหากวิกฤตน้ำท่วมลุกลามเข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวจะกระทบเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่เป็น High Season แม้ว่าจะเปิดประเทศได้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจชะลอการเดินทางเข้ามาเพื่อรอให้วิกฤตน้ำท่วมคลี่คลายเสียก่อน