10 ปีกับเอ็มดีชื่อ “บุญทักษ์” Make “TMB” Difference

หลังจากที่เข้ามารับภารกิจ “พลิกฟื้น-เปลี่ยนโฉม” ธนาคารพาณิชย์ที่มีผลประกอบการขาดทุนกว่าแสนล้านบาท ตั้งแต่ 14 ก.ค.2551

“บุญทักษ์ หวังเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ธนาคารทหารไทย หรือ “ทีเอ็มบี” ประกาศอำลาตำแหน่งโดยจะทำหน้าที่ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้

ขณะที่คณะกรรมการธนาคารมีมติแต่งตั้ง “ปิติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารรับไม้ต่อตั้งแต่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป

อาจไม่ได้ “เซอร์ไพรส์” มากเพราะ “บุญทักษ์” ส่งสัญญาณชัดมาโดยตลอด ว่าอยากไปใช้ชีวิต “บั้นปลายหลังเกษียณอายุ” แบบสบาย ๆ พักผ่อน และท่องเที่ยวให้หายเหนื่อยตั้งแต่ก่อนจะครบวาระในช่วงสิ้นปี 2559 แต่บอร์ดให้ต่อวาระอีก 2 ปี

เมื่อกลางปีที่ผ่านมาบอร์ดมีมติแต่งตั้ง “ปิติ” ขึ้นเป็น CFO หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ควบกับตำแหน่งประธานบริหารลูกค้าธุรกิจ

ก็แว่ว ๆ ตั้งแต่นั้นแล้วว่าก็เพื่อรับภารกิจต่อจาก “บุญทักษ์”  ภายใต้การบริหารงานของ “บุญทักษ์” ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในธนาคาร ตั้งแต่การพลิกฟื้นการดำเนินธุรกิจจากภาวะ “ขาดทุน” กว่าแสนล้านบาท ให้เด้งกลับขึ้นมาในแดนกำไรได้ในปี 2553 พร้อมกับประกาศจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นครั้งแรกในรอบ 14 ปี

“บุญทักษ์” ยัง “พลิกโฉม” ภาพลักษณ์การทำธุรกิจธนาคารแบบเดิม แม้ว่าทีเอ็มบีจะไม่ใช่แบงก์พาณิชย์ใหญ่ แต่ทีเอ็มบีก็ก้าวขึ้นมาในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของวงการธนาคารไทย ตั้งแต่การฉีกกฎธนาคารรูปแบบเดิมไปสู่ “no slip” คือทำธุรกรรมสาขาไม่ต้องกรอกข้อมูล สามารถเดินไปหน้าเคาน์เตอร์เพื่อทำธุรกรรมได้ทันที และที่เขย่าวงการและทำให้เรารู้จัก “ทีเอ็มบี” มากขึ้น นั่นคือการประกาศไม่เก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการเงินทั้ง ฝาก ถอน โอน จ่ายบิล ภายใต้ “TMB ALL Free” ที่ถือเป็นธนาคารแรกของไทย ที่กล้าไม่เก็บค่าธรรมเนียม โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามากที่สุด

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงนวัฒนธรรมองค์กร ทำให้เกิดการสร้างแบรนด์ “ทีเอ็มบี” ขึ้นใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “Make THE Difference” นั่นคือการสร้างแตกต่าง การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งภาพจำใหม่ของธนาคารทหารไทย

ในการอำลาตำแหน่งครั้งนี้ “บุญทักษ์”ได้ส่งสารถึงพนักงานว่า “การต่ออายุอีก 2 ปี ตั้งแต่หมดวาระเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินงานเรื่อง digital transformation ซึ่งขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก และคิดว่าทีเอ็มบีพร้อมแล้ว สำหรับผู้นำคนใหม่ที่จะมาทำหน้าที่ต่อ เพื่อดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของทีเอ็มบีที่วางไว้”

ขณะที่ “ปิติ” เอ็มดีใหม่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เรียกว่าเป็นเด็กปั้นของบุญทักษ์ เพราะได้ติดตามกันมาจากแบงก์กสิกรไทย และมาช่วยกันพลิกฟื้นทีเอ็มบี อยู่ในแวดวงการเงินมากว่า 25 ปี ดูแลตั้งแต่ลูกค้าธุรกิจ, ลูกค้าเอสเอ็มอี, ลูกค้ารายย่อย และธุรกิจตลาดทุน และยังเป็นกรรมการอิสระของรัฐวิสาหกิจ เรียกว่าประสบการณ์ทำงานเพียบพร้อม

ไม่เพียงเจ้านายเก่าที่แบ็กอัพ “ปิติ” ทว่านักบริหารจากธนาคารคู่แข่งอย่าง “ปรีดี ดาวฉาย” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ก็การันตีผลงาน “คุ้นกันดีกับเอ็มดีคนใหม่ทีเอ็มบี เพราะทำงานร่วมกันมายาวนานตั้งแต่ เป็นผู้บริหารที่ธนาคารกสิกรไทย จนปัจจุบันก็ยังเจอกันอยู่ในสายงาน และยังมีการทำงานร่วมกันในหลายโปรเจ็กต์ “ปิติ” ถือเป็นคนเก่ง ทำงานดี มีความรู้ด้านการเงินเป็นอย่างดี และด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาเชื่อว่า “เลือดใหม่” อย่างปิติ จะสามารถนำพา “ทีเอ็มบี” และรับไม้ต่อจาก “บุญทักษ์” ได้สบาย ๆ”


นับเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหม่ของทีเอ็มบี ที่จะพิสูจน์ฝีมือ “เอ็มดีใหม่” วัย 47 ปี ในการขับเคลื่อน “ทีเอ็มบี” โต้คลื่นการแข่งขันรุนแรงของธุรกิจธนาคารในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น