SET รอมาตรการกระตุ้น ศก.โค้งท้าย-จับตา ETF คริปโทฯ ก.ล.ต. สหรัฐจ่ออนุมัติ

REUTERS/Murad Sezer

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนี SET Index แกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,630-1,650 จุด อัพไซต์จำกัดตอบรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.ไปมากแล้ว รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งท้ายหนุนการฟื้นตัว มีโอกาส SET Index ทดสอบแนวต้านใหญ่ 1,670 จุด จับตา ETF คริปโทฯ ก.ล.ต. สหรัฐจ่ออนุมัติสัปดาห์นี้ อาจเป็นสินทรัพย์ที่ฟันด์โฟลว์ไหลไปเข้าในภาวะเงินเฟ้อสูงและธนาคารกลางเริ่มใช้นโยบายแบบเข้มงวด

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้แกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,630-1,650 จุด ภาพรวมมองยังขึ้นต่อได้แต่อาจไปได้ไม่ไกล เนื่องจากระยะสั้น Upside เริ่มจำกัดหลังตอบรับประเด็นการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 ไปมากแล้ว คาดว่าหลังจากนี้ต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายจากภาครัฐเข้าหนุนการฟื้นตัวจึงจะมีโอกาสเห็น SET Index กลับไปทดสอบแนวต้านใหญ่บริเวณ 1,670 จุด

สัปดาห์นี้รอติดตาม 1.การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/64 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน 2.การประกาศตัวเลขส่งออก-นำเข้า ของไทยเดือน ก.ย. 64 และ 3.การประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

กลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายวิจัยยังมองหุ้นกลุ่มเปิดเมืองน่าสนใจ แต่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว จึงควรรอซื้อเมื่อราคาย่อตัว รอเก็งกำไรในหุ้นผลประกอบการไตรมาส 3/64 ออกมาดี และทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Value Play ตามการฟื้นตัวในปีหน้า

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจจีน คาดออกมาขยายตัว 5.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าที่โต 7.9% ด้วยเผชิญปัญหาน้ำท่วมในภาคกลางและปัญหาพลังงานขาดแคลนทำให้ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมสะดุดตัวลง รามถึงปัญหาสภาพคล่องจากบริษัทอสังหาฯ Evergrande ที่ฉุดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจจีนลง

แม้ว่าล่าสุดธนาคารกลางจีนจะประกาศว่าสามารถควบคุมความเสี่ยงในครั้งนี้ได้แล้วและจะไม่ลุกลามตามที่หลายฝ่ายกังวล และการออกกฎคุมเข้มกิจการต่าง ๆ คาดว่าจะส่งผลผ่านตัวเลข GDP ในครั้งนี้ ที่ต้องติตตามต่อไปว่าจีนจะผ่อนคลายการคุมเข้มลงเพื่อฟื้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 หรือไม่

ระวังเงินบาทผันผวน โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพลิกแข็งค่าที่สุดในเอเชีย ตอบรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย.  64 ดันเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยกว่า 9.4 พันล้านบาท แต่ต้องระวังเนื่องจากเข้าใกล้การประชุม FOMC ครั้งที่ 7 ในเดือน พ.ย. 64 ที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประกาศทำ QE Tapering อย่างเป็นทางการ

แม้ว่าทางฝ่ายวิจัยประเมินผลกระทบครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่ากับปี’56 แต่อาจทำให้ Fund Flow ไหลออกบางส่วน จนเงินบาทพลิกอ่อนค่าอีกครั้งได้

ติดตาม ETF คริปโทฯ ล่าสุดที่บริษัท ProShares ยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ จดทะเบียนกองทุน ETF Bitcoin ซึ่งจะเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Bitcoin ทั้งนี้หาก ก.ล.ต.สหรัฐ อนุมัติซื้อขายภายในสัปดาห์นี้ จะเป็นการเปิดประตูสู่คริปโทฯให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น จึงอาจเป็นสินทรัพย์ที่ Fund Flow ไหลไปเข้าในภาวะเงินเฟ้อสูงและธนาคารกลางเริ่มใช้นโยบายแบบเข้มงวด

แนะนำหุ้น SAT คาดยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ย. 64 ฟื้น และดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย แม้กำไรอ่อนตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้าตามยอดผลิตลดลง หากแต่เติบโตเด่นเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเติบโตตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก บวกกับมีออร์เดอร์จากต่างประเทศ และเครื่องจักรกลการเกษตรช่วยหนุน

และหุ้น KTB สินเชื่อโตเด่นที่สุดในกลุ่ม ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือน ส.ค. โตถึง 9.3% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยการเติบโตของสินเชื่อของกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 3.3% เท่านั้น ทั้งนี้คาดได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ที่จะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อของ KTB เติบโตต่อเนื่อง