หุ้นไทยรีบาวนด์เชิงเทคนิค แรงหนุนมาตรการกระตุ้นใช้จ่าย-ลงทุนต่างชาติ

กราฟราคาหุ้น

ตลาดหุ้นไทยคาดเริ่มแกว่งตัวออกข้างในกรอบระหว่าง 1,620-1,640 จุด บริเวณแนวรับ 1,625 จุด อาจเกิดการรีบาวนด์เชิงเทคนิค และได้ปัจจัยหนุนอ่อน ๆ จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและส่งเสริมการลงทุนจากการดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทย

วันที่ 20 ตุลาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า จากวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงกว่า 13 จุด ด้วยเผชิญแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปมากก่อนหน้านี้ แต่ในวันนี้คาดว่า SET Index จะเริ่มแกว่งตัวออกข้างในกรอบระหว่าง 1,620-1,640 จุด โดยที่บริเวณแนวรับ 1,625 จุด อาจเกิดการรีบาวนด์เชิงเทคนิค และได้ปัจจัยหนุนอ่อน ๆ จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและส่งเสริมการลงทุนจากการดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทย

โดยที่ประชุม ครม. วานนี้อนุมัติเพิ่มวงเงินมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ ยิ่งได้ ตลอดจนอนุมัติในหลักการการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อเข้าร่วมโครงการ Flexible Plus Program (ต้องลงทุนในไทยตามประเภทของการลงทุนที่กำหนดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี)

อย่างไรก็ดี คาดการรีบาวนด์ของตลาดยังไปได้ไม่ไกล เนื่องจากเริ่มใกล้การประชุม FOMC เดือน พ.ย. 64 ที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประกาศทำ QE Tapering ในครั้งนี้จึงจะทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูทิศทางและปัจจัยใหม่ ๆ อีกครั้งหลังการประชุมดังกล่าว

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตามวันนี้ 1.ตัวเลข CPI และ Core CPI ของอังกฤษและสหภาพยุโรป 2.สินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐ และ 3.อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคารกลางจีน

สำหรับการเปิดประเทศ เหลือเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จะเข้าสู่การเปิดประเทศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย. 64 หลังเผชิญการระบาดของ COVID-19 และปิดประเทศตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว บนความคาดหวังว่าการเปิดประเทศในครั้งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ COVID-19 ทั้งทั่วโลกและประเทศไทยเองก็ยังไม่สงบดี การเดินทางเข้ามาของต่างชาติยังคงเพิ่มความเสี่ยงการระบาดใหม่ได้ทุกขณะดังที่เกิดแล้วในประเทศสิงคโปร์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ ที่ใช้มาตรการอยู่ร่วมกับ COVID-19 พบว่าผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น 2-3 เท่าตัว

อ้างอิงจากแบบจำลองของ ศบค. คาดว่าหากไทยเปิดประเทศรับต่างชาติอีกครั้ง ผู้ติดเชื้อรายวันจะอยู่ที่ราว 2-3 หมื่นรายจากปัจจุบัน แต่ความแตกต่างคือหากฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกิน 70-80% ของประชากร จำนวนเคสที่รุนแรงและเสียชีวิตจะลดต่ำลง ทำให้ดำเนินมาตรการต่อไปได้ และนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเดินทางมาต่ำกว่าที่คาด แม้จะไม่ต้องกักตัวในประเทศไทย แต่เมื่อเดินทางกลับอาจเผชิญมาตรการสาธารณสุขจากประเทศต้นทางจนกว่าสถานการณ์การระบาดจะดีขึ้น จึงเป็นโจทย์ยากของประเทศในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 นี้