ทิพยฯ จ่ายเคลมโควิดแล้ว 2,000 ล้าน รับโอนลูกค้าเอเชียฯไม่กระทบฐานะการเงิน

COVID-THAI-

“ทิพยประกันภัย” ยันฐานะเงินกองทุนแกร่ง ระดับคาร์เรโชสูงถึง 263% ย้ำรับโอนประกันภัยโควิดลูกค้าเอเชียประกันภัย ส่งประกันภัยต่อต่างประเทศมากกว่า 50% แจงรับโอนแปลงเป็นคุ้มครองภาวะโคม่า เผยข้อมูลจ่ายเคลมโควิดแล้ว 5 หมื่นราย มูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดแม้สถานการณ์โควิดเลวร้ายที่สุด คาดจะจ่ายเคลมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

 

วันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP กล่าวว่า จากกรณีที่บริษัทเป็น 1 ใน 13 บริษัทประกันวินาศภัย ที่เข้าร่วมโครงการรับโอนกรมธรรม์ความคุ้มครองลูกค้าเอเชียประกันภัย ทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านกรมธรรม์ และเป็นบริษัทเพียงรายเดียวที่เข้าไปรับโอนผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นความคุ้มครองจำนวน 7.7 แสนกรมธรรม์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบ “เจอ-จ่าย-จบ”

ทั้งนี้เบื้องต้นหลายฝ่าย ทั้งลูกค้า กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ และผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวนหนึ่ง มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจนเกิดปัญหาฐานะการเงินตามมานั้น บริษัทขอยืนยันว่ากรมธรรม์ประกันภัยโควิดของลูกค้าเอเชียประกันภัย ที่จะรับโอนจะเป็นเงื่อนไขภายใต้ความคุ้มครองประกันภัยโควิด กรณีคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลภาวะโคม่า(ภาวะเสียชีวิต) โดยกำหนดทุนประกันภัยที่ 300,000 บาท เบี้ยประกันภัย 300 บาทต่อปี จะไม่ใช่ความคุ้มครองแบบเจอจ่ายจบแต่อย่างใด โดยลูกค้าเอเชียประกันภัยที่ยังอยากจะมีความคุ้มครองโควิด สามารถแสดงเจตจำนงค์ไปที่กองทุนประกันวินาศภัย(ผู้ชำระบัญชี) ได้ทันที

โดยกองทุนฯจะคำนวณเบี้ยคงเหลือและให้เงินลูกค้านำมาซื้อประกันโควิดกับบริษัท หากมูลค่าเงินคงเหลือไม่ถึง 300 บาท บริษัทจะคำนวณระยะเวลาความคุ้มครองของกรมธรรม์ให้ตามวงเงินดังกล่าว เช่น 9 เดือน, 11 เดือน แต่กรณีเบี้ยมากกว่า 300 บาท ลูกค้าจะได้ความคุ้มครอง 1 ปีตามเงื่อนไขปกติ (โดยจะได้รูปแบบกรมธรรม์ดิจิทัล และเอกสารหลักฐานส่งผ่านอีเมล์) สำหรับเงินส่วนต่างจากนั้นลูกค้าขอรับเป็นเงินสดคืนจากผู้ชำระบัญชีได้เลย ส่วนกรมธรรม์อื่นๆ สามารถซื้อได้ปกติโดยลูกค้าจะได้รับส่วนลด 10% แต่ไม่เกิน 500 บาท

“การเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ประกันภัยโควิดของลูกค้าเอเชียประกันภัย จะไม่เป็นการเพิ่มภาระและไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุน(CAR) ที่ 263% โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าไปรับโอนในครั้งนี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือเยียวยาและเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเอเชียประกันภัย พร้อมทั้งช่วยสร้างความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยให้สังคมเห็นว่ายังแข็งแกร่ง ขณะนี้ขั้นตอนกระบวนการ ทางกองทุนฯอยู่ระหว่างทำหนังสือยกเลิกสัญญากรมธรรม์ลูกค้าเอเชียประกันภัยทั้งหมด โดยระหว่างนี้ลูกค้ายังจะได้รับความคุ้มครองตามปกติ” นายสมพร กล่าว

นายสมพร กล่าวว่า สำหรับพอร์ตรับประกันภัยโควิดของทิพยประกันภัยเอง ปัจจุบันมีอยู่กว่า 5 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นเบี้ยประกัน 2,500 ล้านบาท จ่ายเคลมประกันจากผู้ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท ลูกค้าประมาณ 50,000 ราย อย่างไรก็ดีคาดว่าแม้จะรับโอนลูกค้าประกันภัยโควิดเข้ามาทั้งหมด 7.7 แสนกรมธรรม์ ประเมินจากกรณีเลวร้ายที่สุดยอดจ่ายเคลมสินไหมไม่น่าจะเกิน 3,000 ล้านบาท และระดับ CAR จะยังยืนอยู่ที่ 263% จนถึงสิ้นปี 64

เพราะจากสถิติเคลมค่ารักษาพยาบาลภาวะโคม่า อัตราความเสียหาย(Loss Ratio) อยู่ที่ 100-120% ในขณะที่เคลมติดเชื้อเจอจ่ายจบพุ่งสูงกว่า 300-400% ต่างกันค่อนข้างมาก โดยภาพรวมค่าสินไหมประกันภัยโควิดทั้งระบบพุ่งเกินเบี้ยรับไปแล้วกว่า 2 เท่า หรือใกล้ๆ แตะระดับ 30,000 ล้านบาท

“ตามสถิติที่เราเห็นจากอัตราการติดเชื้อโควิดเกือบ 7% ในสัดส่วนนี้ประมาณ 15-20% มีอาการป่วย แต่มีเพียง 7% ที่อยู่ในอาการภาวะโคม่า และมีแค่ 2% เท่านั้นที่เสียชีวิต” นายสมพร กล่าว

ขณะเดียวกันคาดว่าสถานการณ์โควิดรอบใหม่คงไม่รุนแรงมากเหมือนรอบก่อน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลมีประสบการณ์ในการรับมือแล้ว ประกอบกับประชาชนมีการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ไปพอสมควรแล้วด้วย  รวมไปถึงการรับประกันภัยโควิดของบริษัทมีการส่งประกันภัยต่อต่างประเทศ (รีอินชัวรันซ์) ไว้มากกว่า 50% ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก นอกจากนี้บริษัทมีการคำนวณความเสี่ยงการรับประกันภัยโควิดอย่างระมัดระวัง มีการปรับเงื่อนไขตรงกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้รีอินชัวรันซ์ยังมีความมั่นใจที่จะรับงานต่อไป

โดยปัจจุบันนี้บริษัทยังเปิดขายประกันภัยโควิดคุ้มครองภาวะโคม่าด้วยกัน 2 แผนคือ 1.แผนความคุ้มครอง 300,000 บาท เบี้ยประกัน 300 บาทต่อปี และความคุ้มครอง 500,000 บาท เบี้ยประกัน 500 บาทต่อปี ซึ่งยังมีความสามารถในการรับประกันได้ต่อเนื่องไม่มีข้อจำกัดใดๆ และแม้ปีนี้พอร์ตงานของบริษัทจะเจอผลกระทบเคลมโควิด แต่พอร์ตงานประเภทอื่นๆ ถือว่าลดลงมากประมาณ 3% โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่ช่วยสร้างสมดุลความเสียหายได้ดีขึ้น