ธปท. ชี้เศรษฐกิจเข้าสู่โหมด “ฟื้นฟู” ‘กรุงศรี’หนุนอัดเงินกระตุ้น

เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว.
Photo : Pixabay

ธปท.ชี้สัญญาณเศรษฐกิจ ก.ย.-ต.ค.ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลายธุรกิจทยอยฟื้นตัว มั่นใจเปิดประเทศเป็นแรงส่งเศรษฐกิจปีหน้าเข้าสู่โหมด “ฟื้นฟู” เตรียมขยับตัวเลขนักท่องเที่ยวใหม่

ขณะที่ “วิจัยกรุงศรี” มองเปิดประเทศค่อยเป็นค่อยไป จีดีพีปีนี้โตแค่ 0.6% แต่หากทำได้เร็วขึ้นมีลุ้นหนุนเศรษฐกิจปีนี้โตได้1% ระบุนโยบาย “การคลัง-การเงิน” ยังต้องกระตุ้นเพิ่มเติม

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. ฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวในหลายธุรกิจ อย่างภาคการผลิตที่ฟื้นตัวตามกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นขณะที่ภาคบริการได้ผลดีจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ อาทิ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจขนส่ง

ส่วนการค้าขายในห้างสรรพสินค้าก็ดีขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจน่าจะไปได้ดีต่อเนื่องถึงปีหน้า เป็นการเข้าสู่โหมดฟื้นฟู

“การเปิดประเทศเป็นแรงหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ในกรณีที่การติดเชื้อไม่เพิ่มขึ้นหรือรุนแรง รวมถึงในเดือน ธ.ค.ทาง ธปท.จะมีการปรับตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในการประมาณการเศรษฐกิจด้วยซึ่งจะหนุนเศรษฐกิจในปี 2565 เข้าสู่โหมดการฟื้นฟู โดยผู้ประกอบการต้องการสภาพคล่องเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ ซึ่ง ธปท.ก็มีการอัดสภาพคล่องสินเชื่อฟื้นฟู และเร่งทำให้ผู้ประกอบการตัวเบาด้วยการปรับโครงสร้างหนี้”

นางสาวชญาวดี กล่าวว่า เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. โดยดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นทุกตัว จากการคลายล็อกดาวน์ และ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ทำได้ดีขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงเปราะบาง

โดยเห็นสัญญาณแรงงานย้ายกลับถิ่นฐานลดลงจากก่อนหน้า กลับมาทำงานภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่แรงงาน ม.39 และ 40 ยังมีขอลงทะเบียนว่างงานเพิ่มขึ้นสะท้อนคนตกงาน แต่ยังไม่สามารถกลับมาทำงานได้ แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้น จำนวนผู้ว่างงานและเสมือนว่างงาน 3.4 ล้านคน น่าจะปรับดีขึ้น

อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ได้รับผลกระทบรุนแรง ส่งผลให้ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 แต่ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทั้งนี้ ยังมีประเด็นผลกระทบจากน้ำท่วมที่ยังคงติดตาม แต่โดยรวมเริ่มคลี่คลาย

ซึ่งภาคอุตสาหกรรมน่าจะกระทบไม่มาก เพราะมีบทเรียนในปี 2554 แต่ในส่วนผลกระทบภาคเกษตร คิดเป็น 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และเกษตรกรได้รับผลกระทบ 4.6 แสนราย กระทบผลผลิตข้าวนาปี 9 แสนตัน

ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (วิจัยกรุงศรี) กล่าวว่า เศรษฐกิจปีนี้น่าจะเติบโตได้ 0.6% ภายใต้การเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ดี หากมีการเปิดประเทศเร็วกว่าคาดจะส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเร็วกว่าคาด จากเดิมที่มองจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.5 แสนคน ซึ่งอาจส่งผลกระตุ้นให้จีดีพีปรับเพิ่มขึ้นได้ ตามที่คลังประเมินอัตราการเติบโตที่ระดับ 1%

วิจัยกรุงศรียังมองจีดีพีปีนี้โตที่ 0.6% แต่หากเปิดประเทศแล้วมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเร็วและสูงกว่าคาดไว้เดิม และงบประมาณที่ใช้ในการกระตุ้นทำได้มากกว่าที่คาดไว้ ก็เพิ่มโอกาสให้จีดีพีปรับเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะมาตรการดึงกำลังซื้อของผู้มีรายได้สูงอย่างช็อปดีมีคืน ก็น่าจะมีความจำเป็นที่จะมาช่วยหมุนเศรษฐกิจ แต่ต้องมีวงเงินที่มากพอ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายส่วนเพิ่มมากกว่าปกติของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง

“นอกจากนี้ ก็ต้องมีนโยบายการเงินกระจายสภาพคล่องเพราะหลังการเปิดประเทศผู้ประกอบการต้องการสภาพคล่องเพื่อนำมาฟื้นฟูธุรกิจ หลังจากถูกปิดไปเป็นเวลานานจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19” ดร.สมประวิณกล่าว