หุ้นไทยลุ้นขาขึ้นรอบใหม่หากยืนเหนือ 1,630 จุดได้

กราฟราคาหุ้น

บล.ฟิลลิป ประเมินตลาดหุ้นไทยลุ้นขาขึ้นรอบใหม่ หากยืนเหนือ 1,630 จุดได้ นโยบายการเงินธนาคารกลางทั่วโลกเข้มงวด แต่ขยับแบบค่อยเป็นค่อยไปช่วยลดแรงกดดัน นักลงทุนกลับมาสนใจหุ้นท่องเที่ยว-Value Play มองอัพไซด์ระยะสั้นจำกัด นักลงทุนบางส่วนกำลังรอดูสถานการณ์ COVID สัปดาห์หน้าที่ ศบค. เคยคาดการณ์ไว้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทางแยก ล่าสุดอังกฤษอนุมัติใช้ “ยาโมลนูพิราเวียร์” รักษา COVID-19 ประเทศแรกของโลก คาดหนุนภาคท่องเที่ยว-เปิดประเทศ

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้ลุ้นขาขึ้นรอบใหม่ โดยแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกอยู่ในทิศทางเข้มงวดขึ้นชัดเจน แต่ยังเป็นการขยับแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้แรงกดดันในตลาดลดความรุนแรงลง คาดวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาให้ความสนใจหุ้นกลุ่มเปิดเมือง (AOT) กับหุ้น Value Play ที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ (SAWAD)

และการประกาศงบฯของกลุ่ม Real Sector ที่เหลือ โดยคาดว่าเช้านี้ SET Index จะแกว่งตัวอิงทางขึ้นในกรอบระหว่าง 1,620-1,635 จุด ลุ้นเป็นขาขึ้นรอบใหม่หากยืนเหนือ 1,630 จุดได้ แต่ระยะสั้นอัพไซด์ยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจกำลังรอดูสถานการณ์ COVID-19 ในสัปดาห์หน้าที่ ศบค. เคยคาดการณ์ไว้ว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของทางแยกว่าการระบาดในประเทศไทยจะควบคุมได้หรือไม่

สำหรับนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น แต่ไม่แข็งกร้าว โดยท่าทีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2565 แม้เงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้น แต่ในระยะกลางมีโอกาสปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2% สอดรับกับผลการประชุม Fed ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการทำ QE Tapering เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์

ทำให้นักลงทุนคลายกังวลการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในปีหน้าลง ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วานนี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิมสวนทางคาดการณ์ของตลาด แต่คาดว่าหากเศรษฐกิจดีขึ้นก็เตรียมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ขณะที่ผลการประชุม OPEC+ มีมติคงการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน เมินแรงกดดันจากสหรัฐที่เร่งให้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบโลกที่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี’57 ทำให้แนวโน้มราคาน้ำมันดิบมีโอกาสสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565

ด้านอังกฤษอนุมัติใช้ยารักษา COVID-19 โดยทางสำนักงานควบคุมกฎระเบียบยาฯของสหราชอาณาจักร (MHRA) ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัท Merck&Co สำหรับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 แล้ว ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการอนุมัติใช้ยารักษาไวรัส COVID-19 ส่วนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) สหรัฐ คาดว่าจะอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในเดือน ธ.ค. 2564 และองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) กำลังเร่งพิจารณาให้ทันภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน

ทางฝ่ายวิจัยมองเป็นปัจจัยหนุนต่อภาคการท่องเที่ยวและเปิดประเทศของไทย ที่หากการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพจะยิ่งทำงานควบคู่กับวัคซีนต่าง ๆ ลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ลงได้ หนุนการฟื้นตัวเด่นอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่วานนี้มติ ครม.ของไทยอนุมัติงบประมาณ 2,316 ล้านบาท หนุนการพัฒนาวัคซีน mRNA ChulaCoV19 และ 1,309 ล้านบาทพัฒนาวัคซีน COVID-19 จากใบยาไฟโตฟาร์มเพื่อทดลองกับมนุษย์ในระยะที่ 3 ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงวัคซีนมากขึ้นหากการพัฒนาสำเร็จไปได้ด้วยดี