บมจ. ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย (SET) ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท เหนือจอง 2.56% จากราคาไอพีโอ (IPO) ที่ 3.90 บาท นำเงินระดมทุนพัฒนาโครงการ Logistic Park – เป็นทุนหมุนเวียนและชำระคืนหนี้
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท เหนือจอง 2.56% จากราคาไอพีโอ (IPO) ที่ 3.90 บาท
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
ด้าน PIN ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม พร้อมระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่พาณิชยกรรม และประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่าและขายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม รวมถึงลงทุนและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (PPF)
โดยเสนอขายหุ้นไม่เกิน 290,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ในครั้งนี้
โดยมีสัดส่วนการเสนอขายหุ้น ดังนี้
- บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 120.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 41.59%
- ผู้ลงทุนสถาบัน 98.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 33.93%
- ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 25.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 8.79%
- ผู้ถือหุ้น,พนักงานของบริษัท 45.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 15.69%
ทั้งนี้สำหรับวัตุประสงค์การใช้เงินหลังระดมทุน รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,092.2 ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้
บริษัท มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่นๆ
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ได้พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 1.85 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 1,609.50 ล้านบาท จากกำไรสะสมของบริษัท ในวันที่ 15 กันยายน 2564
ส่งผลให้มูลค่าตามราคาบัญชีภายหลังการจ่ายปันผล เท่ากับ 2.25 บาทต่อหุ้น โดยคำนวณจากมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะส่วนของบริษัท ภายหลังการจ่ายปันผล หารด้วยจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ จำนวนทั้งหมด 870,000,000 หุ้น ที่มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น