กรมศุลกากร เปิดสถิติเดือน ต.ค. จับน้ำมันเถื่อนผิดกฎหมาย 25 ราย

กรมศุลกากรเปิดสถิติตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายศุลกากรเดือน ต.ค.2564 รวมกว่า 1.3 พันคดี มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เผยในจำนวนนี้จับกุมผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน 25 ราย ปริมาณน้ำมันกว่า 5 หมื่นลิตร

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 2564 กรมศุลฯ ได้ตรวจพบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากร ทั้งสิ้น จำนวน 1,368 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 317.8 ล้านบาท

ในจำนวนดังกล่าว เป็นผลการจับกุมน้ำมันเชื้อเพลิง(ดีเซล) ที่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 กรมศุลกากรโดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้นำเรือศุลกากร ออกปฏิบัติการลาดตระเวนตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่บริเวณท้ายเกาะสีชัง พบกับเรือบรรทุกน้ำมัน จึงได้เข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบน้ำมันดีเซล บรรจุอยู่ภายในระวางถังเก็บน้ำมัน และมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ แต่ไม่พบหลักฐานการเสียภาษี ปริมาณ 50,000 ลิตร มูลค่า 1.4 ล้านบาท

“สถิติการจับกุมน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนตุลาคม 2564 ได้แก่ 1. น้ำมันดีเซล จำนวน 25 ราย ปริมาณ 53,560 ลิตร มูลค่า 1,474,994 บาท 2. น้ำมันเบนซิน จำนวน 6 ราย ปริมาณ 570 ลิตร มูลค่า 14,698 บาท” นายชัยยุทธกล่าว

ขณะที่ผลการจับกุมยาเสพติด ที่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 กรมศุลกากรร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และ เจ้าหน้าที่ ศรภ. ได้จับกุมผู้โดยสารสัญชาติไทยที่จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,560 กรัม มูลค่า 15.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในเดือนตุลาคม 2564 มีจำนวน 8 คดี มูลค่า 216.15 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีผลการจับกุมบุหรี่ ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 กรมศุลกากรโดยกองสืบสวนและปราบปราม และด่านศุลกากร ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้ส่งชุดสืบสวนปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว ได้ใช้อำนาจตามหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลาเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ และห้องเช่าในพื้นที่ ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ผลการตรวจค้นพบบุหรี่มีเมืองกำเนิดจากต่างประเทศ และโดยไม่มีหลักฐานผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดง จำนวน 1,588 ลัง 434,500 ซอง 8,621,200 มวน มูลค่า 39.1 ล้านบาท

ทั้งนี้ สถิติการจับกุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเดือนตุลาคม 2564 ได้แก่ 1. บุหรี่ จำนวน 84 คดี มูลค่า 42 ล้านบาท 2. บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 21 คดี มูลค่า 629,370 บาท

นายชัยยุทธ กล่าวว่า กรมศุลกากร มีนโยบายให้การเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES

“กรมฯ มีการสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น” นายชัยยุทธกล่าว


ทั้งนี้ ได้มีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน. ป.ป.ส. บช.ปส. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน