นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีป่วนโลก (disruptive technology) ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจ โดยมีผลกระทบในวงกว้าง รวดเร็ว และรุนแรง โดยมีการประเมินว่า AI จะทำให้ GDP ของประเทศพัฒนาแล้ว โตขึ้นอีก 1.7 เท่าในปีพ.ศ.2578 ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น 30-40%
โดย AI จะช่วยให้ผลกำไร เพิ่มขึ้นในทุกสาขาการผลิต นำโดยหมวดการศึกษา ที่พักอาศัย และการก่อสร้าง รวมถึงทำให้แรงงานทักษะต่ำในภูมิภาคอาเซียนราว 140 ล้านคน มีความเสี่ยงที่จะตกงานในอีก 20 ปีข้างหน้า ในขณะที่แรงงาของไทยสัดส่วน 44% ของกำลังแรงงานรวม มีความเสี่ยงสูงที่จะตกงาน โดยเฉพาะในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Mckinsey Global Institute มีการคาดการณ์ว่า อาชีพที่จะตกงานกันมาก เมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้น คือ นักกฎหมาย แพทย์ นักการตลาดออนไลน์ ผู้ดูแลออฟฟิศ นักพัฒนาเว็บไซต์ นักบัญชี HR องค์กร จิตแพทย์ บรรณาธิการ และนักข่าว
“อะไรที่ทำแบบเดิม ๆ ทำเป็นรูทีน หรือเป็นเรื่องฐานข้อมูลเยอะ ๆ จะตกงานแน่นอน” นายศรพลกล่าว
