โรบินฮู้ด รุกแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยว-ไม่คิดค่าคอม หนุนเม็ดเงินสะพัดพันล้าน

“โรบินฮู้ด” แอปเพื่อคนตัวเล็ก เปิดตัว “โรบินฮู้ด ทราเวล” เตรียมให้บริการ OTA สัญชาติไทย ชู Zero Commission ไม่เก็บค่าคอมมิสชั่นจากโรงแรม หวังช่วยต้นทุน-ฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว คาดมีโรงแรมสนใจเข้าร่วม 3 หมื่นแห่ง มีผู้ใช้งาน 2 แสนราย

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม “โรบินฮู้ด” กล่าวว่า ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คือ ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจโรงแรม

ซึ่งที่ผ่านมาโรบินฮู้ดได้เข้าไปช่วยเหลือคนตัวเล็ก หรือร้านอาหารรายเล็ก ให้สามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยการไม่เก็บค่า GP กับร้านอาหาร ส่งผลให้แพลตฟอร์ตโรบินฮู้ดได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานร้านค้าและไรเดอร์ได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าแล้วกว่า 2.3 ล้านราย และมีจำนวนรายการถึง 1.5 แสนรายต่อวัน

ล่าสุด โรบินฮู้ดได้พัฒนาต่อยอดบริการด้านฟู้ดดีลิเวอรี่มาสู่ภาคการท่องเที่ยว ภายใต้บริการ “โรบินฮู้ด ทราเวล” บริการ OTA (Online Travel Agent) โดยไม่เก็บค่าคอมมิสชัน “Zero Commission” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดโรงแรม ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาในปี 2565 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องให้มีรายได้ และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การเข้ามาทำ “แพลตฟอร์มการท่องเที่ยว” เนื่องจากที่ผ่านมาจะพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มต่างชาติทั้งหมด โดยบริษัทต้องการให้เกิดการดิสรัปชั่นเพื่อเกิดการแข่งขัน ไม่ให้ตกอยู่ในมือต่างชาติมากเกินไป เพราะจะเห็นว่าเจ้าใหญ่ที่ครองตลาด OTA มีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) สูงถึง 40% อย่างไรก็ดี บริษัทไม่ได้ต้องการชนะแพลตฟอร์มต่างประเทศ แต่เพื่อให้โรงแรมสามารถอยู่ได้ และมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น รวมถึงอยากให้เกิดการพูดถึงเหมือนฟู้ดดีลิเวอรี่ที่ภาครัฐมีการพูดถึงเรื่องค่า GP มากขึ้น ซึ่งอย่างน้อยอาจจะช่วยทำให้ค่าคอมมิสชั่นของโรงแรมลดลงได้ในอนาคต

อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมงบประมาณในช่วง 2 ปีหลังจากนี้ไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาทในการพัฒนาแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด รวมถึงการขยายบริการไปด้านอื่น ได้แก่ การซื้อของจากตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต (Mart) ซึ่งอาจจะเป็นการสั่งซื้อของระดับกลางหรือแบรนด์ รวมถึงการส่งของ (Express) เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่การเป็น “ซูเปอร์แอปสัญชาติไทย” ที่พร้อมรองรับการเป็นผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค (Regional Player) ในอนาคตต่อไป

“โรบินฮู้ด ทราเวล ยังคงไม่มีรายได้ เรายังคงเป็นแพลตฟอร์ม CSR ซึ่งมีเงินทุนเริ่มแรกเพียง 150 ล้านบาท แต่ขณะนี้ เราได้รับการเพิ่มทุนมาอีก 4,000 ล้านบาท และกำลังจะก้าวไปสู่การเป็นซูเปอร์แอปแต่ในระยะข้างหน้าเราอาจจะมีรายได้ทางอ้อมอย่างอื่น เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน หรือทัวร์กิจกรรมต่าง ๆ ที่รวมถึงการปล่อยสินเชื่อ เราจะได้ส่วนต่างกำไร หรือมาร์จิ้น หากลูกค้าเข้ามาใช้จำนวนมากเกิดจำนวนทรานแซ็กชั่นเยอะขึ้น และในปีหน้าเรามีแผนที่ระดมทุนในระดับ Series A และหลังจากนั้นเราก็น่าจะมีรายได้”

นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างเดินสายพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงแรมในการเข้าร่วมบริการ โดยตั้งเป้าจะมีโรงแรมเข้าร่วมกว่า 3 หมื่นแห่ง โดยคาดว่าจะมี 2 หมื่นแห่งที่เป็นโรงแรมขนาดกลางและเล็ก จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมแล้วกว่า 3,000 แห่ง มีจำนวนลูกค้าผู้ใช้งานกว่า 200,000 ราย

โดยจะมีทริปเกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มกว่า 300,000 ทริป สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1 พันล้านบาท และสามารถช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายจากค่าคอมมิสชั่นได้กว่า 200 ล้านบาท รวมถึงมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแตะ 3 ล้านรายมีรายได้รวมประมาณ 700-800ล้านบาทในปีหน้า นอกจากนี้ ยังพูดคุยกับสายการบิน 3 ราย แต่ที่ให้ความสนใจเข้ารวมมี 2 ราย ได้แก่ การบินไทย และนกแอร์

ทั้งนี้ หากดูตลาดการท่องเที่ยวในประเทศไทย ถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 จากผลสำรวจพบว่า ในประเทศไทยมีที่พักขนาดกลาง และขนาดเล็กกว่า 50,000 โรง โดยกว่า 44% ใช้บริการแพลตฟอร์มจองที่พักผ่านออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการโรงแรมต้องจ่ายค่าคอมมิสชั่นในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 15-30% เราจึงได้นำจุดยืนในการทำธุรกิจเพื่อสังคมมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาบริการ “โรบินฮู้ด ทราเวล” ด้วยการไม่คิดค่าคอมมิสชั่นกับผู้ประกอบการโรงแรมในการใช้บริการแพลตฟอร์ม

“เราจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่จะให้ดาวน์โหลดแอป ใหม่ในเดือนมกราคมก่อน ทั้งนี้ จากความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าโรบินฮู้ด ฟู้ดดีลิเวอรี่กว่า 2.3 ล้านคน และลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 16.3 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลเราพบว่า ลูกค้าที่ใช้บริการโรบินฮู้ด ฟู้ดดีลิเวอรี่ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารไทยพาณิชย์อยู่แล้ว จึงเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทำให้เราเชื่อมั่นจะช่วยต่อยอดและทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”


สำหรับแผนการขยายแพลตฟอร์ม “โรบินฮู้ด ฟู้ดดีลิเวอรี่” ไปในต่างประเทศ เบื้องต้นอาจจะดูในประเทศที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประเทศไทย เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ขณะที่ในส่วนของ “โรบินฮู้ด ทราเวล” ในช่วงแรกจะเน้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยก่อน แต่ในอนาคตอาจจะขยายไปในส่วนของต่างประเทศเข้ามา แต่จะเป็นประเทศจีนก่อน เนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยวหลักของไทย